Overview Of Car
ขับสนุก นุ่มนวล ถึกเกินคาด พร้อมลุยทุกท้องถนน เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด
ขับสนุก นุ่มนวล ถึกเกินคาด พร้อมลุยทุกท้องถนน เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดร่างบึกบึนแต่พลิ้วสวยเข้าซองสง่า เทคโนโลยีความปลอดภัยสูงและจัดเต็มสุนทรียภาพขณะเดินทาง กับค่าตัว 4,999,000 บาท
รถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่มีการใช้พลังงานปลั๊กอินไฮบริดทั้งหลายต้องยอมหลีกทางให้เอสยูวีสุดหรูรุ่นนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สมเหตุสมผลที่สุดเพราะ BMW X5 ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเงียบสงบ สมรรถนะขั้นสูงแถมยังเบาแรงคนขับและยังมีพื้นที่ภายในกว้างขวางเป็นจุดเด่นเห็นได้ชัดของ X5 คันโปรดนี้และถึงแม้ภายนอกดูบึกบึนแต่กลับทำอัตราเร่งได้มากเกินคาดสามารถเทียบเท่าเคียงเจ้า BMW M2 Coupe ได้เลย
ช่วงนี้และนับจากนี้เป็นต้นไปรถยนต์ประเภทเอสยูวีจะค่อย ๆ ซึมซับเข้ามาจนกลายเป็นกระแสใหม่ของวงการยานยนต์ ทั้งด้านผู้ผลิตและผู้บริโภคต่างหันมาให้ความสนใจกันอย่างล้นหลามเพื่อตอบสนองสไตล์ความต้องการแบบตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในเมืองหรือเป็นคนชอบเดินทางรวมถึงนักขับขาลุยพร้อมไปทุกท้องถนน BMW ได้รวบรวมความสามารถทั้งหมดให้จบอยู่ภายใน BMW X5 xDrive45e M Sport คันเดียว
BMW เป็นตัวจริงด้านยนตรกรรมหรูสายพันธ์สปอร์ตอย่างแท้จริง เอสยูวีสมัยใหม่นั้นได้รับการออกแบบให้มีหน้าตาทันสมัยสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะเอสยูวีจากตระกูล X จับสังเกตได้จากเส้นสายตัวถังที่มีความโฉบเฉี่ยวและมีเหลี่ยมมุมที่ดูบึกบึนเอกลักษณ์อย่างกระจังหน้าไตคู่ Kidney grille ปรากฏอยู่ในทุกโมเดล
วันนี้เราอยู่กับ BMW X5 xDrive45e M Sport เจเนอเรชั่นที่ 4 ของตระกูล X5 มาในรูปแบบขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดผสานกับการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าปรับนู่นเปลี่ยนนี่จนเข้ากับความคล่องตัวของรถยนต์เวอร์ชั่น Sport Activity Vehicle (SAV) ด้วยค่าตัว 4,999,000 ล้านบาท นอกจากสมรรถนะที่ไม่น่าผิดหวังแล้วยังมีชุดแต่ง M Sport รังสรรค์รถหรูสุดคูลให้เป็นสปอร์ตดุดันได้ในเวลาเดียวกัน
สเปครถยนต์
Body Style: | Cross Over |
---|---|
Description: | Large SUV – 5 ประตู 5 ที่นั่ง |
Engine: | เบนซิน 3.0 ลิตร |
Fuel Consumption: | 43.5 กม./ลิตร |
Fuel Type: | เบนซิน |
Make: | BMW |
Max Power: | 394 แรงม้า ที่ 1,500 – 3,500 รอบต่อนาที |
Max Torque: | 450 นิวตันเมตร |
Model: | BMW X5 xDrive45e M Sport |
Price Guide: | 4,999,000 บาท |
Release Date: | 26 มกราคม 2564 |
0-100 km/h: | 5.6 วินาที |
Transmission: | เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด |
ขับขี่ดี สมรรถนะเร้าใจ
สำหรับใต้ฝากระโปรงที่ซ่อนความดุดันไว้ X5 xDrive45e ได้รับอัพเกรดขุมพลังใหม่จากรุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์ลูกผสม เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทคโนโลยี Twin Power Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร เมื่อรวมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้พละกำลังสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive และมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 24.0 kWh ติดตั้งอยู่ที่พื้นตัวถังรถ
เอาล่ะ เรามาเริ่มจับอาการหรือความสามารถที่ BMW X5 คันนี้จะพิสูจน์แสดงศักยภาพออกมาให้เราเห็น เริ่มที่ถนนในเมืองการจราจรติดขัดอยู่บ้างประปรายยังไม่ทันไปถึงไหน X5 ก็แผลงฤทธิ์ซะแล้วและทำให้เราถึงกับต้องสงสัยว่า ตัวถังใหญ่ขนาดนี้ไปเอาแรงจากไหนมาวิ่งแซงเพื่อน จึงทำให้เราเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะการอัพเกรดเครื่องยนต์รวมถึงการเปลี่ยนรหัสตัวถัง
มิติถังใหญ่และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากแผงแบตเตอรี่มาเจอกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 394 แรงม้า เราไม่รู้สึกว่า X5 xDrive45e อืดอาดเชื่องช้าแต่อย่างใด กลับกัน มันกลับมีอัตราเร่งที่รวดเร็วว่องไวกว่าที่คาด เมื่อกดคันเร่งลงไปรถเตรียมพุ่งทะยานในระดับความเร็วที่กำลังพอดีกระชากหลังติดเบาะจากแรงดึงอันหนักหน่วง แต่พอลองสังเกตจริง ๆ เราใช้ความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง X5 สามารถทำได้ราว ๆ 6.10 วินาที ถึงอย่างไรก็ยังคงไม่สามารถสู้ Porsche Cayenne e-Hybrid เมื่อเทียบกันแล้วปอร์เช่ทำเวลาได้ประมาณ 5.98 วินาทีเลยทีเดียว
ด้านระบบส่งกำลังทำงานได้ดีราบรื่นและนุ่มนวล เมื่อลองเปลี่ยนเกียร์เราแทบจะไม่รู้สึกถึงช่วงสับเลยด้วยซ้ำ ขณะที่มีการสับเปลี่ยนการทำงานของเครื่องยนต์ก็เช่นกัน ไม่มีกระตุก ไม่มีชะงักทุกอย่างรับส่งกันเป็นอย่างดี หลังพวงมาลัยมีการติดตั้งก้านแพดเดิลชิฟท์เราจึงลองควบคุมการใช้เกียร์ตามต้องการ ผลออกมาว่าตอบสนองไวตบใช้งานได้ทันทีในเกียร์ D ถ้าดันเกียร์มาที่ S จะกลายเป็นโหมด SPORT เครื่องยนต์จะตอบสนองไวขึ้นแต่ละเกียร์จะไล่ระดับลากรอบสูงขึ้นตามเลเวล
บังเอิญว่าทางค่ายทางแบรนด์ได้เคลมกันมาถึงอรรถประโยชน์จากเอสยูวีหรูคันนี้สามารถพาลุยได้ทุกท้องถนน โชคดีเส้นทางที่ทางทีม What Car ? Thailand ใช้ทดสอบรถกันเป็นประจำนั้นถนนมีสภาพค่อนข้างผุพังและไม่เท่ากัน มีหลุมบ้างปะปนกันไป ซึ่งแน่นอน BMW X5 ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ เราแทบจะไม่รู้สึกถึงความสะเทือนเมื่อรถขับผ่านหลุมหรือถนนที่ได้กล่าวไปข้างต้นลุยได้อย่างคล่องแคล่วบนพื้นผิวที่มีความลื่นอย่างเช่นดินทรายร่วนๆ หรือหินกรวดขนาดเล็ก
การยึดเกาะยังดีเหมือนเดิม ขับแล้วรู้สึกมั่นใจ ขณะที่ประสิทธิภาพในการเบรกบนพื้นผิวแบบนี้ก็ไม่ได้แย่จากพื้นผิวทางเรียบปกติมากนัก ระยะเบรกเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด เมื่อต้องเจอกับสภาพถนนคดเคี้ยวไปมาหรือมีโค้งหักศอกบ้างแน่นอนว่าเมื่อติดตั้งช่วงล่างถุงลมเป็นมาตรฐาน ฟีลลิ่งของ X5 xDrive45e จึงมีความนุ่มนวลเป็นหลัก แต่ในความนุ่มนวลก็มีความแน่น กระชับ ไม่ยวบย้วยในขณะเข้าโค้งแรงๆ อาการโยนมีบ้างตามประสารถยกสูงแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดเสียว
นอกจากช่วงล่างถุงลมแบบปรับความสูงได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่จำเป็นสำหรับลุยทางออฟโรดคือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เราได้ลองใช้แล้วซึ่งมันทำงานได้ดี ช่วยป้องกันไม่ให้ไหลลงเนินเร็วเกินไป เพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
รวมถึงการตอบสนองของแป้นเบรกมีระยะฟรีน้อย ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายแม้กดเบรกเต็มแรงแต่กลับไม่มีอาการหัวทิ่มเป็นชาวร็อคเลย โดยรวมแล้วทำได้เป็นธรรมชาติ ความปลอดภัยสูงและให้ความนุ่มนวลทุกการขับขี่จริง
มาถึงด้านพวงมาลัยถูกปรับเซ็ตมาเป็นอย่างดี ระยะฟรีค่อนข้างน้อยไปจนถึงแทบจะไม่มีเลย หมุนคมตามมือ เมื่อวิ่งอยู่บนความเร็วต่ำจะมีน้ำหนักเบาแต่เมื่อวิ่งบนความเร็วสูงพวงมาลัยเซ็ตตัวเองให้หน่วงเพิ่มน้ำหนักขึ้นเพิ่มระยะฟรีให้มีความเหมาะสมไม่มากไปยังอยู่ในขอบเขตของความสปอร์ต
แต่เมื่อพูดถึงพวงมาลัยแล้ว BMW X5 xDrive45e M Sport นี้ถูกติดตั้งความปลอดภัยกับระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning ซึ่งต้องขอบอกไว้ว่าระบบนี้มันค่อนข้างเซฟมากแต่พอมาลองด้วยตัวเองจริง ๆ แล้วมันค่อนข้างอันตรายไปในตัวเนื่องจากหากเราลืมเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนจราจร ระบบจะทำงานแบบหนัก สั่นและหน่วงดึงเรากลับเข้าเลนแบบแรงมากถือว่าแรงกว่าทุกคันที่ได้สัมผัสมา
การทำงานของระบบไฮบริดนั้นเราพบว่าการรักษาพลังงานในแบตเตอรี่และการชาร์จไฟเข้าสู่ระบบของ BMW นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่อนข้างชัดเจนกว่าแบรนด์อื่นในบรรดารถยนต์ประเภทเอสยูวี นอกจากการทำงานเร็วแล้วยังมีการเลือกโหมด Battery Control และ ตั้งเปอร์เซนต์ของระดับแบตเตอรี่เอาไว้ได้ การชาร์จไฟเข้าก็ทำได้เร็ว ทั้งจากเครื่องยนต์ และ ระบบ Regenerative Brake
ภายนอกหล่อสุขุม
มีการตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Sport รอบคัน ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและราวหลังคาสีดำเงา ติดตั้งล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke แบบสลับสี หุ้มยางรันแฟลต ล้อหน้าขนาด 275/40 R21 ล้อหลังขนาด 315/35 R21 มาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลม Adaptive 2-Axle ที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติและระบบควบคุมความนุ่มนวลโช้กอัพแบบแปรผัน
ด้านหน้ารถติดตั้งระบบไฟ Adaptive LED ปรับตามทิศ M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke แบบสลับสีทางหมุนของพวงมาลัยและปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกแบบ LED หลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู รวมถึงระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ
เรียบหรูถึงภายใน
ไม่ว่าภายนอกจะลุคสปอร์ตเท่ขนาดไหนแต่การมีห้องโดยสารที่ดีย่อมสำคัญ เมื่อย่างกายเข้ามานั่งอยู่หน้าพวงมาลัย X5 xDrive45e พร้อมกับตำแหน่งนั่งขับขี่ที่มีวิสัยทัศน์กว้างและสามารถมองเห็นได้ดีจากการเป็นรถยกสูง ไม่มีเสียงลมถนนเล็ดลอดให้ได้ยิน
เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์แบบสปอร์ตหุ้มหนังแท้ Vernasca นุ่มนั่งสบายเป็นระบบปรับไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มุมมองหน้ารถ ข้างรถ หลังรถ ดีเยี่ยมทุกด้าน ปุ่มปรับต่างๆ บนแดชบอร์ดเยื้องเข้าหาผู้ขับขี่เล็กน้อยทำให้เข้าถึงการใช้งานได้ง่าย ห้องโดยสารกว้างมากพอ เหมาะกับคำว่ารถครอบครัวอเนกประสงค์ด้านหลังนั่งสบาย
จอหน้าปัดดิจิตอล BMW Live Cockpit Professional มาพร้อมกราฟิกสวยงามคมชัด อ่านค่าง่าย ขณะที่หน้าจอกลางแดชบอร์ดขนาดใหญ่ก็แสดงผลได้ลื่นไหล เมนูใช้งานง่าย มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครัน ควบคุมการทำงานผ่านปุ่มหมุนที่คอนโซลกลาง สามารถรองรับการสั่งการได้ทั้งเสียงพูดและท่าทางโบกมือ โดยรวมแล้วเป็นระบบความบันเทิงที่เสถียรและมีประสิทธิภาพสูงในระดับต้นๆ ของวงการ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังดีไซน์ M Sport มีชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร Ambient Light เพิ่มความสุนทรียภาพขณะเดินทาง
นอกจากนี้ X5 xDrive45e ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่จริงอย่างเซนเซอร์ควบคุมระยะด้านหน้าและหลัง และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ทั้ง 2 อย่างนี้มีประโยชน์อย่างมากในกรณีต้องขับขี่บนเส้นทางคับแคบหรือมีอุปสรรค
ทั้งหมดนี้รวบรัดอยู่ในค่าตัว 4,999,000 บาท ซึ่งรวมอยู่ในภาษีมูลค่าเพิ่มและโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard มีให้เลือกใน 4 สีด้วยกัน ได้แก่สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect
สรุปความน่าใช้
BMW X5 xDrive45e ไม่ได้มีเพียงแค่ชื่อแบรนด์และหน้าตาเท่านั้นแต่วันนี้ X5 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลุยถนนออฟโรดได้ โค้งหักศอกแม่น แม้อยู่ในร่างเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดก็ตาม รวมถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลมส่งให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นมันอาจจะลุยเส้นทางโหดๆ ปีนป่ายหิน ลุยน้ำลุยโคลนไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสมรรถนะการขับขี่มั่นใจ ปราดเปรียวว่องไวไม่ต่างจากรถยนต์ทั่วไปและถือว่าเป็นเอสยูวีที่แตกต่างโดดเด่นกว่าเพื่อนคู่แข่งในประเภทเดียวกันประกอบกับอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เสริมประสิทธิภาพให้กับรถได้เป็นอย่างดีรับรองได้ว่า เงินที่เสียไปคุ้มค่าเพื่อแลกกับสิ่งที่ได้มาแน่นอน
The Review
BMW X5 XDrive45e M Sport
ครอสโอเวอร์เอสยูวีฉบับผู้ดี กำยำแต่ทะมัดทะแมง เทคโนโลยีฟังก์ชั่นล้ำแถมสมรรถนะดีเกินคาด
PROS
- เครื่องยนต์ส่งกำลังดี
- ระบบความปลอดภัยสูง
- ห้องโดยสารกว้าง
- สามารถลุยถนนออฟโรดได้
CONS
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจรหน่วงแรงเกินไป
Review Breakdown
-
Driving
-
Engine & Trans
-
Fuel Consumption
-
Practicality
-
Price and Features
-
Design
-
Saftey
BMW X5 XDrive45e M Sport DEALS
We collect information from many stores for best price available