BMW X3 xDrive30e M Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมปลั๊กอินไฮบริด

Overview Of Car

รุ่นประกอบในไทย มาพร้อมการขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive เข้าด้วยกันอย่างลงตัว รวมกำลังทั้งระบบ 292 แรงม้า ความสปอร์ตชัดเจนมากขึ้น ออปชั่นครบครัน สไตล์รถครอบครัวแน่นอน วางขายแล้ว 3,659,000 บาท

     BMW ประเทศไทย เสริมทัพรถ SAV ตระกูล X ด้วยการเปิดตัว X3 xDrive30e M Sport สำหรับผู้ที่ต้องการรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดแต่ไม่ต้องการรถขนาดใหญ่เท่า X5 ที่สำคัญรถรุ่นนี้ประกอบในประเทศไทย ดังนั้น สเปกจึงไม่ถูกตอน พร้อมกับราคาค่าตัวที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน เราต้องอธิบายให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจก่อนว่า รถ SAV กับ SUV นั้นเป็นรถประเภทเดียวกันเพียงแต่ทาง BMW ใช้เป็น Sports Activity Vehicle หรือที่เรียกกันว่า SAV ที่กล่าวไปในข้อความเบื้องต้นนั่นเอง

     และในที่สุดรถยนต์ประเภทเอสยูวีก็ได้ช่วงชิงตำแหน่งยอดนิยมและการใช้งานอเนกประสงค์ที่ใคร ๆ ก็ต่างอยากครอบครอง คำว่า รถเอสยูวี ต้องมาพร้อมกับรถยนต์ที่ต้องใช้งานได้จริง เดินทางสะดวกสบายยิ่งสำหรับท่านใดที่มีสมาชิกในครอบครัวเกินกว่า 3 คนแล้ว นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่เราอยากจะแนะนำอีกหนึ่งรุ่น 

     แต่การเป็นเอสยูวีหรือเอสเอวีนั้นไม่ได้ถูกจำกัดความให้มีตัวถังเพียงขนาดเดียวเท่านั้น เพราะเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนไปในปัจจุบันนี้ทำให้รถเอสยูวีถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายขนาดหลายสไตล์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค หากใครเป็นสายลุยแบบสุดโต่งก็มีพวกบรรดารถออฟโรดของแท้ที่มาพร้อมภาพลักษณ์แข็งแกร่งดุดัน หรือเน้นขับสบาย ๆ ในเมืองก็ยังมีพวกครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มาพร้อมรูปลักษณ์ทันสมัยพร้อมความคล่องตัว แต่ถ้าชื่นชอบความเร็วความแรงก็ต้องวิ่งไปหาเอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ตอย่าง BMW X3 xDrive30e M Sport คันนี้ 

     ข้อสงสัยจะหายไปก็ต่อเมื่อเราได้ไขคำตอบออกมาเท่านั้น เหมือนกับตอนนี้ที่เรานึกอยากจะลองของเจ้าเอสเอวีจากค่ายดังบีเอ็มดับเบิลยูคันนี้ โอกาสมาถึงโดยไม่ช้า เราได้ทดลองขับ BMW X3 xDrive30e M Sport ที่มาพร้อมกับช่วงล่างแบบ M Sport ที่สำคัญทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำเข้ามาประกอบในประเทศไทยโดยเฉพาะเลย ตัวถังยาวขึ้นเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารและมีน้ำหนักเบาลงราว 55 กิโลกรัมเลย ถือว่าลดไปเยอะมาก 

ขับขี่ดีสมกับเป็นสปอร์ตเอสเอวี

     เราเคยขับรถประเภทนี้ของบีเอ็มดับเบิลยู อยุ่พอสมควร ซึ่งมันทำออกมาได้ดีเยี่ยม มอบความประทับใจให้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมายปลายทางและส่งเราถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย มีการควบคุมที่ดีมาก และเรามาดูพร้อมกันว่า BMW X3 xDrive330e M Sport จะทำได้ดีเหมือนกับพี่น้องร่วมตระกูลหรือไม่ ? 

     วันนี้เราอยู่กับ BMW X3 xDrive30e M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ผลิตกำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับและมอเตอร์ไฟฟ้าผลิตขุมพลัง 109 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร รวมกำลังทั้งระบบแล้วรีดออกมาได้ถึง 292 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive 

     เพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น มันก็พอจะทำให้เรารู้ได้ถึงพลังที่จะมอบการขับขี่ที่ดีเหมาะกับการใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งคำว่า xDrive เหมือนเป็นการตอกย้ำถึงสมรรถนะที่ดีนั่นก็คือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ที่สามารถแปรผันแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลัง ได้ตามสถานการณ์ของการขับเคลื่อนและรูปแบบพื้นผิวหรือเรียกว่ามันจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของช่วงล่างรถยนต์ให้โดยอัตโนมัติ  

    ออกจากจุดสตาร์ทได้ไม่นาน เราต้องขับผ่านบริเวณถนนตัวเมืองด้วยโหมด Comfort ฟีลลิ่งการขับขี่ไม่ต่างจากตัว X4 เลย หรือจะให้นึกภาพให้ออกคงจะเหมือนกับขับซีรี่ส์ 3 ไม่มีผิดเลย เพียงแค่มันถูกยกตัวถังให้สูงขึ้นซะมากกว่า ถึงมันจะมอบการขับขี่ที่คล้ายกับ X4 หรือรุ่นไหนก็ตาม เราค้นพบว่า ความโดดเด่นที่ X3 ตัวนี้มีคือ ความแรง หรืออัตราเร่ง ที่ดีกว่าด้วยการทำงานของระบบ xDrive ที่ส่งพลังทั้งหมดไปยังล้อทั้งสี่นั่นเอง ให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าตัวซีรีส์ 3 ที่เรายกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ 

     การทำงานของเครื่องยนต์เงียบเชียบมากระดับผู้ดี ไม่มีการสั่นหรืออาการโวยวายใด ๆ ทั้งนั้น แม้จะมีเหยียบเร่งรอบสูงขึนบ้างก็ตาม ระบบส่งกำลังเกียร์ให้ความร่วมมือได้ดีมากไม่มีกระตุกเลยในจังหวะที่กำลังเปลี่ยนเกียร์ และการทำงานของโหมด Comfort นั้นจะมีอัตราเร่งทดค่อนข้างชิดกันเพื่อความุ่มลื่นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง  

     ขับไป ขับมา เราเริ่มออกสู่ถนนรอบเมืองแล้ว นั่นหมายความว่า เราจะขับได้ยาวโดยที่ไม่มีการจราจรติดขัดอีกต่อไป ไม่รอใช้เราลองเหยียบเพิ่มความเร็วไปที่ 120 กม. /ชมในเวลาอันสั้นเท่านั้น นี่ขนาดแค่ในโหมด Comfort เท่านั้นนะ คันเร่งตอบสนองดี แถมระเบิดพลังออกมาให้เห็นตัวตนกันชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์สู่ปลายท่อที่แสนจะเสนาะหู

     อัตราเร่งที่เราลองทำระยะสั้นในโหมด Comfort จาก 0-100 กม./ชมได้ราว ๆ 7.-8 วินาที ถือว่าแรงพอตัวอยู่นี่เป็นเพียงตัวเลขที่เราทดสอบออกมาได้ โหมดธรรมดายังขนาดนี้เราอยากเพิ่มความเร้าใจลองโหมด Sport เรียกได้ว่าจัดจ้านอยู่เหมือนกันทำอัตราเร่งได้ที่ 6.58 วินาที หรือมันยังสะใจไม่พอ ไม่เป็นไร BMW จัดให้ ดึกเอกลักษณ์อีก 1 อย่างออกมา แต่งเติมจินตนาการได้ด้วยเสียงสังเคราะห์ที่ถูกติดตั้งมาให้ด้วย มีให้เลือกอยู่ 3 โหมด และการเลือกใช้ฟังก์ชั่นนี้จะไม่เดือดร้อนหูเพื่อนร่วมถนนแน่นอน 

    แม้แต่เสียงรบกวนจากลมที่พยายามจะลอดผ่านกระจกจากภายนอกสู่ภายในห้องโดยสาร X3 ตัวนี้ จัดการได้อย่างเนี้ยบถึงจะวิ่งอยู่บนความเร็ว 120 กม./ชมก็ตาม แต่ถ้ากดคันเร่งขึ้นอีกเสียงก็คำรามออกมาตามสไตล์  

     ระบบช่วงล่างที่ดีจะเป็นมิตรให้การทำงานส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ อีกหนึ่งความมั่นใจในการขับขี่ต้องมาดูกันตรงระบบบังคับเลี้ยวชั้นดี แปรผันน้ำหนักพวงมาลัยตามความเร็วของรถยนต์หรือเปลี่ยนไปตามการเลือกใช้งานในแต่ละโหมดได้อย่างเป็นธรรมชาติ คมสวย เห็นได้ชัดก็ตรงเราลองใช้โหมด Sport พวงมาลัยปรับน้ำหนักให้เรากระชับมือมากขึ้น มีระยะฟรีที่ดีแต่ที่ไม่แปรผันไปก็คงเป็นเรื่องของความแม่นยำของการเลี้ยวที่เฉียบคม 

โฉมงามดุดันสไตล์ตระกูล X

       ต้องขอบคุณที่มีแพคเกจ M Sport มาสร้างความโดดเด่นให้กับ X3 แต่ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก กระจังหน้าทรงไตคู่ Kidney grille ยังคงเป็นแบบเดิม ถึงยังไงมันก็ยังดูลงตัวกับชุดแต่ง M Aerodynamics กันชนหน้าแบบสปอร์ตมีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีไฟหน้า LED พ่วงระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มาคู่กับไฟ DRL แบบวงแหวนหกเหลี่ยม เราดีใจที่ BMW ยังไม่ลืมติดไฟตัดหมอกมาให้ 

       มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป เจ้าเอสเอวีทรงกล่องนี้ถูกตัดทอนน้ำหนักและความยาวเพื่ออำนวยความสะดวกพื้นที่ภายในมากขึ้น ความยาวรวม 4,708 มมกว้าง 1,891 มมสูง 1,676 มมความยาวฐานล้อ 2,864 มมความสูงจากพื้น 204 มมและลดน้ำหนักให้พ่อหนุ่มสุขุมสุดเนี้ยบราว ๆ 55 กิโลกรัม 

      เส้นสายตัวรถมีการออกแบบอย่างลงตัว มีสปอยเลอร์หลังคามาเป็นมาตรฐาน ไฟท้ายเป็น LED สอดรับกับดีไซน์ท้ายรถที่โดดเด่นด้วยชุดกันชนแบบสปอร์ตและท่อไอเสียคู่ ให้ล้ออัลลอย M Double-Spoke แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว หุ้มด้วยยางรันแฟลต Bridgestone Alenza ขนาด 245/50 R19 ในความเห็นส่วนตัวของเราถือว่า มันเป็นรถเอสเอวีมีขนาดที่เหมาะสมมากที่สุด ตัวถังที่กว้างขึ้นแต่กลับมีน้ำหนักเบาลง และไม่ดูเทอะทะจนลัดเลาะถนนในตัวเมืองไม่ได้เลย  

ภายในกว้างเรียบหรูหรา

      สำหรับรถยนต์ประเภทเอสยูวี สิ่งที่ควรดูให้ดีที่สุดก็คงเป็นเรื่องของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร พื้นที่ของห้องจุสัมภาระ หรือแม้แต่ระบบสาระบันเทิงที่ต้องมอบความสะดวกสบายในการใช้งานขณะขับขี่ไปในตัว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอน นั่นคือ ความสะดวกสบายตอนที่เราต้องเดินทางไกลไปที่ไหนสักแห่ง 

     X3 โดดเด่นที่ความเรียบหรูที่ผสมความสปอร์ตได้อย่างลงตัวด้วยชิ้นส่วนสีเงินอะลูมิเนียมและสีดำเงา Piano black แน่นอนว่าระดับคุณภาพการผลิตและวัสดุที่ใช้ต้องมีความประณีตสุด ๆ ทุกขั้นตอน หลังจากเปิดประตูเข้าไปประจำตำแหน่งผู้ขับขี่ เรารับรู้ได้ว่า มันมีเบาะที่โอบรัดเราได้ดีผสานสไตล์สปอร์ตไว้และมีตำแหน่งค่อนข้างดี ไม่ติดพวงมาลัยจนเกินไปแต่ก็ไม่ห่างจนมันกว้างเกินไปเหมือนกัน พวงมายังคงเป็นทรง M Sport เหมาะมือดี ปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและครูสคอนโทรลมาพร้อมสรรพ และที่ขาดไม่ได้ก็คือแป้นแพดเดิลชิฟท์ที่ด้านหลัง  

      หลังพวงมาลัยถูกติดตั้งชุดหน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอลความคมชัดสูงขนาด 12.3 นิ้ว เป็นจอด้านทำให้ลดแสงสะท้อนลงไปได้เยอะ มีกราฟิกที่สวยขึ้น คมชัด อ่านง่าย จัดวางในรูปแบบที่ให้อารมณ์เหมือนหน้าปัดแบบเข็มอนาล็อก หน้าตาของมันจะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ด้วย  

      เรารู้สึกว่า ภายในของ X3 นี้ ดูแคบลงมาจาก X4 หรือ X5 ก็ตามมิติถังที่เป็นเอสเอวีขนาดกลางถึงอย่างนั้นมันยังรู้สึกกว้างขวางโปร่งนั่งสบายอยู่ดี ผู้ที่มีความสูงราว ๆ 180 ซมยังนั่งได้แบบสบายเข่าไม่ติดเบาะหน้า ศีรษะไม่ติดเพดานหลังคาถือว่าผ่าน 

      ความสุนทรียภาพจัดเต็มแน่นอน แดชบอร์ดเป็นวัสดุซอฟต์ทัช แผงควบคุมกลางแดชบอร์ดออกแบบให้เยื้องเข้าหาผู้ขับเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่ การจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและง่ายต่อการใช้งาน 

      ระบบสาระบันเทิง iDrive แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ตัวจอวางอยู่ตำแหน่งที่ดี ควบคุมการทำงานได้จากแป้นหมุนที่คอนโซลกลางพร้อมปุ่มทางลัดเข้าเมนูสำคัญ มันใช้งานง่าย และยังคงเป็นระบบสาระบันเทิงในรถยนต์ที่เราชื่นชอบที่สุด ตัวระบบมีความลื่นไหล ตอบสนองเร็ว มีข้อมูลและลูกเล่นต่างๆ เยอะ รองรับทุกการเชื่อมต่ออย่างครบครัน มีระบบนำทางที่เชื่อใจได้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการเคลื่อนไหวของมือ BMW Gesture Control และรองรับระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive มีแท่นชาร์จไร้สายกับหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน  

สรุปความน่าใช้

     บนโลกนี้ยังไม่มีอะไรออกมายืนยันว่ามันจะยั่งยืน เราคิดว่า เอสยูวี นี่แหละน่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องพิสูจน์ อาจจะยังไม่แรงปี๊ดป๊าดเท่ากับสมาชิกในตระกูลแต่ BMW X3 xDrive30e M Sport ทดแทนสิ่งนั้นด้วยการมอบความมั่นใจในการขับขี่ได้แน่นอน ความหนึบหนับที่เกาะถนนดีกว่าใครด้วยระบบช่วงล่างแบบ M Sport ยางและล้อที่ถุกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอยุ่แล้ว 

     อีกหนึ่งเสียงที่เราจะเชียร์อัพให้คุณครอบครอง BMW X3 xDrive30e M Sport เรื่องประโยชน์ในการใช้สอยที่ดีกว่า X4 แน่นอน ฟังก์ขั่นครบจัดเต็มเทียบเท่า X4 หรือ X5 ได้เลยแต่การขับขี่ของ X4 ยังดีกว่าและมีการทรงตัวที่ดีกว่า ไซส์ที่เหมาะสมลงตัวไปหมดไม่ว่าจะเป็นออปชั่นที่ให้มาหรือสมรรถนะที่ลงตัว ขับลัดเลาะในเมืองได้ดี มุดซ้ายมุดขวา ไม่รู้สึกเอื้อยอ้ายเป็นฮิปโปแน่นอน 

     อีกหนึ่งจุดของการตัดสินคะแนน ห้องเก็บสัมภาระต้องมีพื้นที่เพียงพอต่อสมาชิกและ X3 ก็เป็นเช่นนั้น ห้องเก็บสัมภาระใหญ่โตมาก มาพร้อมความจุ 550 ลิตร เพิ่มพื้นที่ได้อีกนะพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 1,600 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลงจะราบเป็นพื้นเดียวกัน แถมยังเป็นเบาะแบบพับแยก 40/20/40 ให้ความยืดหยุ่นในการเก็บสัมภาระได้มากขึ้น ขอบห้องไม่สูงมากทำให้ง่ายต่อการขนถ่ายสัมภาระ และสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นแฮนด์ฟรีเปิด-ปิดอัตโนมัติเพียงสอดเท้าไปใต้กันชนหลัง

 

The Review

Exit mobile version