การเกริ่นนำ
What Car? says…
มีความเชื่อในหมู่คนรักรถว่า ถ้าคุณอยากได้รถที่แรงและมีพื้นที่เก็บสัมภาระได้เยอะๆ ก็ต้องเลือกเจ้า Audi RS6 Avant แต่ขอแอบบอกเลยว่า ถึงแม้ว่าเจ้า RS6 จะเร็วและนั่งสบายมากก็ตาม แต่มันไม่ใช่รถที่มอบความรู้สึก “สนุก” ในการขับขี่สักเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามgเจ้า RS6 เจเนอเรชันที่ 4 ในปัจจุบัน มีเครื่องมือที่จะเปลี่ยนสิ่งนั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Performance ที่มาแทนรุ่นปกติ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการเพิ่มกำลังอีก 29 แรงม้าจากเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ RS6 Avant Performance กลายเป็นรถยนต์สเตชันวากอนของ Audi ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
กำลังที่เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะสนุกขึ้นเสมอไป ด้วยเหตุนี้ Audi จึงติดตั้งระบบเลี้ยวสี่ล้อ (four-wheel steering) และเฟืองท้ายแบบ torque-vectoring ในทุกรุ่น เมื่อรวมกับล้ออัลลอยฟอร์จน้ำหนักเบาที่เป็นตัวเลือกเสริม ทำให้ RS6 Avant ควรจะให้ความรู้สึกที่คล่องตัวขึ้น
Audi RS6 Avant twin test video
แต่เจ้า Audi ยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีรุ่นพิเศษ GT รุ่นลิมิเต็ด ที่เพิ่มเบรกคาร์บอนเซรามิก ช่วงล่างสไตล์ Coilover ที่ปรับได้ ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์ และดีไซน์ที่ดุดันยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีเจ้า Audi RS6 Avant ต้องเจอคู่แข่งสายโหดอย่าง BMW M3 Touring และ BMW M5 Touring ดังนั้นคำถามคือ RS6 จะขึ้นไปยืนอยู่แถวหน้าในบรรดารถสมรรถนะสูงได้หรือไม่?
สมรรถนะและการขับขี่
ขับขี่อย่างไร? เงียบแค่ไหน?
จุดเด่น | จุดด้อย |
✅ ช่วงล่างนุ่มสบาย ✅ การควบคุมดีเยี่ยม ✅ แรงแบบสุดๆ | ❌ การตอบสนองของเกียร์ช้ากว่าคู่แข่ง ❌ บางคนอาจอยากให้เสียงท่อดังขึ้น ❌ BMW M3 Touring ขับสนุกกว่า |
หากคุณกำลังมองหารถที่มีความเร็วสูง ขับขี่สบาย และไม่ท้าทายจนเกินไป Audi RS6 Avant คือคำตอบ แต่ข้อแลกเปลี่ยนคือมันสนุกน้อยกว่า BMW M3 Touring
จนถึงช่วงเวลาที่คุณเหยียบคันเร่ง คุณอาจคิดว่ากำลังขับ Audi A6 Avant รุ่นปกติอยู่ก็เป็นได้
ใต้ฝากระโปรงของ RS6 คือเครื่องยนต์ เบนซิน V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 621bhp แรงม้า และแรงบิด 627lb ft ปอนด์-ฟุต กำลังทั้งหมดถูกส่งไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 174mph ไมล์ต่อชั่วโมง ประมาณ 279.9 กม./ชม.
สำหรับรุ่นพิเศษ Audi RS6 Avant GT ให้กำลังเท่ากัน แต่ด้วยยางที่ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นและการลดน้ำหนักลง 25 กก. ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วขึ้นเล็กน้อยที่ 3.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 190mph ไมล์ต่อชั่วโมง ประมาณ 305.8 กม./ชม.
คำว่า “เร่งเหมือนรถไฟบรรทุกสินค้า” “accelerates like a freight train” อาจเป็นคำที่ใช้กันบ่อย แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นคำที่เหมาะที่สุดในการอธิบายว่า RS6 พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างไร ด้วยความเร็วที่รุนแรงและเสียงท่อไอเสียที่คำรามโหดดุดันในโหมดขับขี่สปอร์ต
ในการอัปเดตช่วงกลางอายุผลิตภัณฑ์ Audi ได้นำวัสดุซับเสียงบางส่วนออก เพื่อให้เสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ดุดันเข้ามาในห้องโดยสารมากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลดีโดยที่ไม่ได้ดังจนเกินไปจนกระทบต่อความหรูหรา
RS6 มีการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและบังคับเลี้ยวได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบ เลี้ยวสี่ล้อ ที่ช่วยให้วงเลี้ยวแคบลงในความเร็วต่ำและเพิ่มการตอบสนองบนถนนที่ใช้ความเร็วสูง ทำให้การขับในที่จอดรถแคบๆ ง่ายพอๆ กับการขับเร็วๆ บนถนนชนบท
อย่างไรก็ตาม การควบคุมอาจยังไม่ลงตัวนัก แม้จะใช้ช่วงล่างปรับได้ RS Sport ในโหมดที่แข็งที่สุด การเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วยังคงทำให้ตัวถังเอียงมากกว่าคู่แข่ง ทำให้ RS6 ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แม่นยำเท่าที่ควร
ในทางกลับกัน รุ่น RS6 GT ที่ผลิตจำนวนจำกัด ด้วยช่วงล่างคอยล์โอเวอร์ที่แข็งกว่า จะช่วยลดการเอียงของตัวถังและให้ความรู้สึกที่ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น ส่งผลให้การขับขี่นุ่มนวลกว่ามาก
ถึงอย่างนั้น BMW M3 Touring ที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยยังคงให้การบังคับเลี้ยวที่เป็นธรรมชาติและรู้สึกคล่องตัวกว่า หากต้องการความเร้าใจในสนามแข่ง คุณสามารถปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใน M3 และส่งกำลังไปยังล้อหลังเพียงอย่างเดียวได้ ซึ่งทำได้ยากกว่าใน RS6
นี่คือข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงปรัชญาที่แตกต่างกันระหว่าง RS6 กับรถสเตชันวากอนสมรรถนะสูงอื่นๆ นอกจากนี้ กล่องเกียร์ของ RS6 ยังเปลี่ยนได้ช้ากว่าของ M3 Touring เล็กน้อย ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ไม่ฉับไวเท่า แต่ก็ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่
ไม่ว่า RS6 Performance จะมาพร้อมช่วงล่างถุงลมมาตรฐาน หรือช่วงล่างปรับได้ Audi RS Sport (มาตรฐานในรุ่น Carbon Vorsprung และเป็นตัวเลือกเสริมในรุ่นอื่นๆ) ก็ยังคงให้ความนุ่มนวลและยืดหยุ่นอยู่เสมอ
แม้แต่รุ่น RS6 GT ที่มาพร้อมช่วงล่างคอยล์โอเวอร์ที่ปรับได้ ก็ยังสามารถแยกห้องโดยสารออกจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถึงแม้จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วที่ใหญ่โต แต่ RS6 Avant ก็ยังขับขี่สบายกว่า BMW M3 Touring โดยเฉพาะบนถนนในเมืองที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เมื่อขับที่ความเร็วสูงบนทางด่วน ความเงียบในห้องโดยสารถือว่ายอดเยี่ยม มีการเก็บเสียงลมและเสียงยางได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับใน M3 มีโหมดขับขี่เฉพาะสองโหมด (RS1 และ RS2 ใน RS6) ที่ให้คุณตั้งค่าตามที่ต้องการสำหรับน้ำหนักพวงมาลัย, ความแข็งของช่วงล่าง, ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์, ระดับการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ และการตอบสนองของคันเร่ง
ในตอนแรก ฉันกังวลว่ารถรุ่น RS6 GT ที่ใช้ช่วงล่างแบบคอยล์โอเวอร์จะทำให้รถแข็งกระด้างจนรู้สึกกระแทกกระทั้นเวลาเจอพื้นถนนที่ไม่เรียบ แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย – Lawrence Cheung, New Cars Editor
สเปคเครื่องยนต์
Engine | เครื่องยนต์เบนซิน V8 mild hybrid (MHEV) biturbo พร้อมระบบฉีดตรง (direct injection) |
Displacement | 3,996 ซีซี (4.0 ลิตร) |
Max Power | 630 แรงม้า |
Max Torque | 850 นิวตันเมตร |
Transmission | เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ |
Drivetrain | ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา (quattro) พร้อมเฟืองท้ายแบบ Sport Differential |
0-100 km/h | 3.4 วินาที |
Top Speed | 280 กม./ชม. (ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์) หรือ 305 กม./ชม. (เมื่อติดตั้งเบรกคาร์บอนเซรามิก) |
Fuel System | ระบบ Mild-hybrid (MHEV) 48V |
การควบคุมและการขับขี่
RS6 ให้ความรู้สึกมั่นคงอย่างยิ่ง, เกาะถนนได้ดี และบังคับเลี้ยวได้อย่างมั่นใจ ระบบเลี้ยวสี่ล้อช่วยให้วงเลี้ยวแคบลงในความเร็วต่ำและเพิ่มการตอบสนองในถนนที่ใช้ความเร็วสูง ทำให้ง่ายต่อการขับขี่ในลานจอดรถและคล่องตัวบนถนนชนบท
อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในโหมดที่แข็งที่สุดของช่วงล่าง RS Sport ที่ปรับได้ การเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วยังคงทำให้ตัวถังเอียงมากกว่าคู่แข่ง ทำให้ RS6 ไม่ได้ให้ความรู้สึกแม่นยำเท่าที่ควร
ตรงกันข้ามกับรุ่นพิเศษอย่าง RS6 GT ที่มีช่วงล่างคอยล์โอเวอร์ที่แข็งกว่า ช่วยลดการเอียงของตัวถังและให้ความรู้สึกยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นอย่างมาก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลกว่า
ภายในห้องโดยสาร
การออกแบบ คุณภาพ และตำแหน่งคนขับ
Audi RS6 Avant GT dashboard
จุดเด่น | จุดด้อย |
✅ หน้าจอแยกควบคุมแอร์ ✅ หน้าปัดดิจิทัลปรับได้หลากหลาย ✅ เบาะหน้าสปอร์ตดีมาก | ❌ ตำแหน่งขาอาจเบียดผนังซ้าย ❌ คอนโทรลบางจุดอ่านยาก |
ภายในของ Audi RS6 Avant ถูกยกระดับความสปอร์ตขึ้นจากรถ Audi รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน ด้วยพวงมาลัยท้ายตัด, วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์, Alcantara และเบาะนั่งหนังเย็บลายเพชรทรงสปอร์ตที่ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมและนั่งสบายในระยะทางไกล
หน้าจอแสดงผลดิจิทัลสำหรับคนขับขนาด 12.3 นิ้ว ที่คมชัดสามารถแสดงข้อมูลได้หลากหลาย รวมถึงหน้าจอเฉพาะของรุ่น RS และข้อมูลที่ถูกส่งไปยังหน้าจอ Head-up Display มาตรฐาน
ระบบจะตอบสนองไวส่วนการควบคุมอื่นๆ จะแสดงบนหน้าจอสัมผัสกลางสองจอ จอด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว ใช้สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศเป็นหลัก ส่วนจอด้านบนขนาด 10.1 นิ้ว สำหรับระบบ Infotainment แต่การควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสทั้งหมดนี้อาจทำให้ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากถนนเพื่อปรับค่าต่างๆ ซึ่งต่างจาก BMW M3 ที่ใช้ปุ่มหมุนที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยกว่าขณะขับขี่
“แผงควบคุม Drive Mode อยู่ต่ำ แถมผิวมันวาว ทำให้มองยากอีกต่างหาก” – Lawrence Cheung
ผู้โดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระ
ความกว้างขวางและความอเนกประสงค์
Audi RS6 Avant GT boot
จุดเด่น | จุดด้อย |
✅ นั่งสบายทั้งหน้าและหลัง ✅ พับเบาะได้หลากหลาย ✅ พื้นที่ท้ายรถใหญ่ที่สุดในกลุ่ม | ❌ ยังไม่พบข้อเสีย |
นี่คือจุดที่ Audi RS6 Avant ได้คะแนนนำในฐานะ “รถคันเดียวที่คุณต้องการ” อย่างแท้จริง แม้จะมีสมรรถนะที่น่าทึ่ง แต่ก็ใช้งานได้จริงเพียงพอที่จะพาคุณ, ครอบครัว และสัมภาระเดินทางไกลได้อย่างสบาย
ด้านหน้ามีพื้นที่กว้างขวาง ส่วนด้านหลังสามารถรองรับผู้ใหญ่ที่มีส่วนสูง 180 ซม. ได้อย่างสบายทั้งศีรษะและหัวเข่า
พื้นที่เก็บสัมภาระของ RS6 Avant มีขนาดถึง 565 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่า BMW M3 Touring และ Porsche Panamera อย่างเห็นได้ชัด และสามารถบรรทุกกระเป๋าเดินทางขนาดพกพาได้ถึง 9 ใบ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับได้แบบ 40/20/40 เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคาค่าครองชีพ ความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ
จุดเด่น | จุดด้อย |
✅ อุปกรณ์มาตรฐานจัดเต็ม ✅ ปรับแต่งรูปลักษณ์ได้หลากหลาย | ❌ ราคาสูงมาก ❌ รุ่น GT แพงและหายากมาก |
Audi RS6 Avant Performance มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า BMW M3 Touring แต่ก็มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดเต็ม เช่น ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว, ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร, ฝาท้ายไฟฟ้า, เบาะหนังพร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ และระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน
สำหรับผู้ที่มองหารถสเตชั่นวากอนสมรรถนะสูงขั้นสุด อาจต้องการรุ่น GT ซึ่งขับดีที่สุดในตระกูล RS6 Avant แต่คุณอาจจะหาได้ยาก เนื่องจากมีจำนวนจำกัดเพียง 60 คันในสหราชอาณาจักร
ในด้านความน่าเชื่อถือ Audi ทำคะแนนได้ค่อนข้างต่ำในการสำรวจปี 2024 โดยรั้งอันดับที่ 24 จาก 31 ผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งต่ำกว่า BMW (อันดับ 8) และ Mercedes (อันดับ 22) อย่างไรก็ตาม RS6 มีระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบครัน เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และการจดจำป้ายจราจร
“คุณสามารถตกแต่งภายในรถ RS6 ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้ด้วยการเลือกแพ็กเกจ Exclusive RS Interior Design ซึ่งจะมีการตกแต่งเบาะและคอนโซลกลางด้วยสีสันที่คุณเลือก แต่แพ็กเกจนี้มีราคาสูงกว่า 8,000 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 370,000 บาท” – Dan Jones, Senior Reviewer
สรุป
สำหรับเจ้า Audi RS6 Avant เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงที่ยังคงความหรูหราและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่หากคุณให้ความสำคัญกับความรู้สึกในการขับขี่ที่สนุกและมีส่วนร่วมเป็นพิเศษ อาจมีตัวเลือกอื่นที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ

The Review
Audi RS6 Avant
Audi RS6 Avant เป็นหนึ่งในรถสมรรถนะสูงที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุด ด้วยการผสมผสานความเร็วที่มหาศาล, พื้นที่ใช้สอยที่ยอดเยี่ยม และความสะดวกสบายในทุกวันได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่ให้เฉียบคมขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าความสนุกในการขับขี่ที่คล่องแคล่วของ BMW M3 Touring ได้
PROS
- เร่งจากจุดหยุดนิ่งได้เร็วมาก
- ขับสบาย หรูหรา
- คุณภาพภายในยอดเยี่ยม
CONS
- ไม่สนุกเท่า M3 Touring
- ระบบอินโฟเทนเมนต์ซับซ้อน
- เกียร์อัตโนมัติยังไม่ฉับไวเท่าคู่แข่ง
Review Breakdown
-
Performance & Drive
-
Interior
-
Passenger & Boot space
-
Buying & Owning