ความสมบูรณ์แบบของยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ประสบการณ์การขับขี่แบบ Audi Sport พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์ พกพาขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัด ดีไซน์ดุดัน โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทรงพลังเร้าใจ นี่คือความลงตัวอันน่าทึ่งของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง สำหรับครอบครัวยุคใหม่ เตรียมพบกับ Audi RS รุ่นพิเศษ Performance Edition มาตรฐานใหม่ของรถยนต์สาย Performance เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่นแล้ววันนี้
เปิดตัวรถในตระกูล RS มาทั้งหมดแล้ว 9 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า 100% และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การเปิดตัว RS 6 Performance Edition และ RS 7 Performance Edition ครั้งนี้ อาวดี้ ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่มีการเปิดตัวในเวลาที่ใกล้เคียงกับ World Premier
เปิด RS Performance Edition อัพเกรดมาตรฐานใหม่สายแรง RS 7 Sportback Performance เสริมทัพรถในตระกูลสมรรถนะสูง อัพเกรดขุมพลังที่พร้อมระเบิดความแรงทุกวินาที ผลลัพธ์การออกแบบจาก Audi Sport เพื่อสะท้อนสมรรถนะและรูปลักษณ์ที่ดุดันแข็งแกร่ง ดีไซน์ภายนอกผสมผสานความสปอร์ตในสไตล์ Sportback และความหรูหราเข้าด้วยกัน เพื่อให้รถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในทุกโอกาส ไม่ว่าจะสุขุมทรงพลังสำหรับชีวิตประจำวัน หรือเร้าใจไร้ขีดจำกัดเสมือนอยู่ในสนามแข่ง
ภายนอก
รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์แบบ Sportback ท้ายลาด สุดยอดเอกลักษณ์จาก Audi และครั้งนี้มาพร้อมลุคที่ร้อนแรง เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport แบบ 5 ก้านในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ตอกย้ำความดุดันด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ลาย Honeycomb ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
เพลิดเพลินกับเอฟเฟกต์ไฟแบบ Light staging ด้านหน้าและด้านท้าย เมื่อเปิด-ปิดล็อครถ มาพร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง
ภายใน
ออกแบบภายในอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศการขับขี่ให้เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งกว่าเดิม ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังหุ้มหนัง Valcona ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟเรืองแสงห้องโดยสาร ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี ควบคุมขุมพลังผ่านพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง
ระบบความบันเทิง
ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการและจอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ
ความปลอดภัย
- Audi pre sense rear (ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง) เรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านท้ายรถจะประเมินสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง ในกรณีที่ประเมินว่ามีแนวโน้วที่อาจเกิดอันตรายได้ ระบบจะดึงรั้งสายเข็มขัดนิรภัยของเบาะนั่งคู่หน้าให้กระชับ นอกจากนั้นแล้ว หากกระจกหรือหลังคาพาโนรามิคถูกเปิดค้างไว้ ระบบจะปิดให้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดการทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน
- Lane change warning (ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน) เรดาร์เซ็นเซอร์ 2 ตำแหน่งที่อยู่ด้านท้ายของตัวรถจะช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจสอบสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง (มีข้อจำกัดในการทำงานที่ช่วงระดับความเร็วตั้งแต่ 15-20 กิโลเมตรชั่วโมง) เมื่อระบบประเมินว่ารถอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายได้หากผู้ขับขี่เปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนขึ้นที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อตั้งใจเปลี่ยนเลนไปยังทิศทางดังกล่าว สัญญาณเตือนจะกระพริบถี่ขึ้น
- Exit warning (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ) ขณะที่รถจอดหยุดนิ่ง ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบยานพาหนะที่เคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยาน กำลังเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารภายในรถกำลังเปิดประตูจากด้านใน สัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้น
- Rear cross traffic assist (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง)ระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะถอยรถออก หากตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วพบว่ามีรถเคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย ระบบจะส่งสัญญาณเตือน และหากอยู่ในสถานการณ์คับขัน ระบบจะช่วยเบรกเพื่อลดทอนการอุบัติเหตุ
เครื่องยนต์
ทะยานไร้ขีดจำกัดกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Audi Sport สมรรถนะที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ระเบิดพลัง 630 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มั่นใจกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปอย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง เติมเต็มด้วยระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports ส่งเสียงคำรามจากห้องเครื่องสู่ท้องถนนอย่างเร้าใจ
ราคาและรุ่น
RS 7 Sport Performance เปิดให้จองแล้วในราคา 11,280,000 บาท ในสี Glacier white, metallic / Floret silver, metallic / Nardo grey, solid / Daytona grey, pearl effect / Mythos black, metallic / Tango red, metallic / Ultra blue, metallic
รายการสีสั่งพิเศษมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา ได้แก่ Suzuka grey, metallic / Coral orange, metallic / Goodwood green, pearl effect / Misano red, pearl effect / Sepang blue, pearl effect / Merlin, pearl effect
รายการอุปกรณ์สั่งพิเศษ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา
Carbon exterior package
- ชายล่างใต้กันชนด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- กระจกมองข้างตกแต่งด้วย carbon
- ช่อง air inlets ด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- ขอบสเกิร์ตด้านข้างตกแต่งด้วย carbon
- ขอบ diffuser ด้านท้ายตกแต่งด้วย carbon