All-New Corolla Sedan เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการที่งาน กว่างโจว มอเตอร์โชว์ มาพร้อมแพล็ตฟอร์ม TNGA ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense แบ่งเป็น 2 ดีไซน์ ได้แก่ Sporty และ Prestige เจาะตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
All-New Corolla Sedan ที่เห็นอยู่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 12 ของตระกูล Corolla แล้ว การเปิดตัวของตัวถังซีดานทำให้ Corolla ในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ตัวถังด้วยกัน ไก้แก่ ซีดาน แฮทช์แบ็ก และวากอน
โมเดล Sporty เน้นทำตลาดอเมริกาเหนือ, จีน (ใช้ชื่อ Levin), ญี่ปุ่น และอื่นๆ ส่วนโมเดล Prestige เน้นทำตลาดยุโรป, จีน (ใช้ชื่อ Corolla) และเอเชีย คาดว่าไทยเราน่าจะได้ใช้โฉมนี้
All-New Corolla Sedan สร้างบนแพล็ตฟอร์ม TNGA ซึ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ขับสบายยิ่งขึ้น เงียบขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น มิติตัวถังยาว 4,640 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,435 มม. ความยาวฐานล้อ 2,700 มม.
ดีไซน์ภายนอกมาในคอนเซ็ปต์ Shooting Robust ให้อารมณ์สปอร์ต ทันสมัย ด้วยการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ พร้อมตัวถังที่กว้างและเตี้ยลงจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้การขับขี่ความเร็วสูงมีความมั่นคงยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายในคอนเซ็ปต์ Sensuous Minimalism เรียบง่ายแต่ดูดี โดดเด่นด้วยชุดหน้าปัดดีไซน์ใหม่ ความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน
All-New Corolla Sedan มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและภูมิภาค แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือเครื่องยนต์ Dynamic Force Engine ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ เกียร์อัตโนมัติ Dynamic-Shift CVT
และที่ขาดไม่ได้คือเวอร์ชั่นไฮบริด โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดเจนเนเรชั่นที่ 4 ประกอบด้วยเครื่องเบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT
All-New Corolla Sedan มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่อัพเกรดใหม่ ทันสมัยและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม โดยรายละเอียดของระบบต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค
All-New Corolla Sedan ยังรองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อรุ่นล่าสุดของโตโยต้าสำหรับเชื่อมต่อระหว่างรถและเจ้าของเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ในประเทศจีนจะใช้ชื่อว่า Data Communication Module (DCM) ส่วนของไทยใช้ชื่อ T Connect Telematics เป็นต้น โดยระบบเชื่อมต่อนี้จะมีบริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม. รวมถึงถึงรองรับ Apple CarPlay และ Amazon Alexa (เฉพาะตลาดอเมริกา) ด้วย
All-New Corolla Sedan จะเริ่มจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019 ส่วนประเทศจีนจะขายทั้งโมเดล Sporty และ Prestige เริ่มสตาร์ทในช่วงกลางปี 2019 และจะถูกขายทั่วโลกมากกว่า 150 ประเทศและภูมิภาค สำหรับประเทศไทย All-New Corolla Altis มาแน่ในปีหน้า หน้าตาจะเป็นอย่างไรรอติดตามกันให้ดีๆ
Gallery
