All-New Lexus UX พรีเมี่ยมครอสโอเวอร์น้องเล็กสุดของค่าย เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตทันสมัย เอาใจกลุ่มคนเมือง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮบริด 184 แรงม้า
ราคา
- รุ่น 250h Luxury 2,490,000 บาท
- รุ่น 250h Grand Luxury 2,690,000 บาท
- รุ่น 250h F Sport AWD 3,620,000 บาท
ตลาดกลุ่มคอมแพ็คครอสโอเวอร์ระดับพรีเมี่ยมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับไลฟสไตล์ของคนเมืองที่ต้องการความแปลกใหม่และแตกต่าง เลกซัส ประเทศไทยเล็งเห็นถึงโอกาสตรงนี้จึงได้แนะนำ All-New Lexus UX ยนตรกรรมคอมแพ็คครอสโอเวอร์หรูรุ่นใหม่ล่าสุดเข้าสู่ตลาด นี่คือครอสโอเวอร์น้องเล็กสุดของแบรนด์ วางตำแหน่งอยู่ล่างสุดร่วมกับพี่ๆ อย่าง NX และ RX
Lexus UX ได้รับการออกเเบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากการผสมสานระหว่างรถ Hatchback และ SUV เข้าด้วยกัน โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคมตามสไตล์เลกซัส แฝงด้วยความประณีตหรูหรา ภายในออกแบบอย่างพิถีพิถันตามแบบหลักสรีรศาสตร์ ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายและเพลิดเพลินในการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ได้อย่างดี
UX พัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) พร้อมด้วยการเชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์ และการใช้อลูมินัมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และยังออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ มิติตัวรถยาว 4,495 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,520 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. น้ำหนักรถสุทธิ 2,110 กก.
ดีไซน์หน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ขนาดใหญ่ พร้อมด้วยไฟหน้าและไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบ LED รูปทรงแหลมคมดูเข้ากันเป็นอย่างดี ประกบคู่กับไฟตัดหมอก LED ได้อย่างลงตัว ชุดไฟหน้านี้มาพร้อมกับระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ รวมถึงไฟส่องมุมหน้ารถ Cornering lamp
เส้นสายด้านข้างมีเหลี่ยมมุมที่ชัดเจน ช่วยให้รถดูมีมิติและทันสมัย ซุ้มล้อและชายล่างตัวถังเป็นพลาสติกสีดำช่วยเพิ่มความดุดันในสไตล์เอสยูวีสายลุย แนวหลังคาที่ลาดตัดลงด้ายท้ายให้ความรู้สึกสปอร์ตอย่างชัดเจน รุ่น Luxury และ Grand Luxury มาพร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้วสีเทาเข้ม ส่วนรุ่น F Sport ได้ล้อ 18 นิ้วสีเมทัลลิก
ท้ายรถโดดเด่นด้วยชุดไฟท้าย LED ลากยาวเต็มความกว้าง มาพร้อมสปอยเลอร์หลังคาและกันชนท้ายดีไซน์สปอร์ต รุ่น F Sport จะมีราวหลังคาและหลังคากระจกมูนรูฟมาเป็นมาตรฐาน
ภายในของ UX ไม่ทำให้เสียชื่อแบรนด์เลกซัส แม้จะเป็นครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุดแต่ความประณีตหรูหราไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นใหญ่ การออกแบบห้องโดยสารเป็นไปตามหลักสรีระศาสตร์ แดชบอร์ดถูกจัดวางให้เยื้องมาที่ผู้ขับเล็กน้อย ปุ่มปรับต่างๆ จัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย ตกแต่งด้วยหนังบุนุ่มระดับพรีเมี่ยม
อุปกรณ์ภายในมีครบ โดดเด่นด้วยจอแสดงผล EMV ขนาด 10.3 นิ้วที่กึ่งกลางแดชบอร์ด ควบคุมสั่งการผ่านแป้นทัชแพดข้างคันเกียร์ จอนี้มาพร้อมกับระบบแผนที่นำทาง ระบบความบันเทิง และรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ AUX และ USB นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าปัด Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 7 นิ้ว, Head-up display, ช่องชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศดูอัลโซน สวิตช์เครื่องเสียงที่ฐานของที่พักแขน และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
UX รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 5 คน สะดวกสบายด้วยเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมฟังก์ชั่นจดจำตำแหน่ง เบาะหลังตัวกลางดึงลงมาเป็นที่พักแขนพร้อมช่องวางแก้วได้ พับแยกได้แบบ 60/40 ประตูท้ายเป็นระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เปิด-ปิดได้เพียงสอดเท้าไปใต้กันชนหลัง
UX ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นล่าสุด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 5,200 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร รวมพละกำลังทั้งระบบ 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แบตเตอรี่เป็นแบบ Ni-Mh (Nickel Metal Hydride) ขนาด 180 Cell แรงดันไฟฟ้า 216 V
รุ่น Luxury และ Grand Luxury ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 23.8 กม./ลิตร ปล่อย CO2 99 กรัม/กม. ส่วนรุ่น F Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.7 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 20.8 กม./ลิตร ปล่อย CO2 112 กรัม/กม.
โหมดขับขี่มี 3 โหมด ประกอบด้วย Eco, Normal, Sport รุ่น F Sport จะมีโหมด Sport + เพิ่มเข้ามา กันสะเทือนหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Double Wishbone ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS รัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร ถังน้ำมันจุ 43 ลิตร
UX รุ่น F SPORT ได้รับการถ่ายทอด DNA จากรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์อย่าง Lexus LFA โดดเด่นด้วยชุดแต่งรอบคันและเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่มีความโอบกระชับยิ่งกว่า มีระบบ Active Sound Control สร้างเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์ให้รู้สึกเหมือนขับรถเกียร์ะรรมดา และมีระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน (Adaptive Variable Suspension) ปรับการดูดซับแรงของโช้คอัพที่ล้อทั้งสี่ให้ตอบสนองต่อการควบคุมของผู้ขับขี่และสภาพพื้นผิวถนนได้อย่างเหมาะสม
เพราะความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ Lexus UX จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus Safety System Plus เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เพียบพร้อมด้วยระบบปกป้องและป้องกันอย่างครบถ้วน ประกอบด้วย ระบบรักษาให้รถอยู่ในเลน ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ระบบป้องกันก่อนการชน และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบช่วยแจ้งเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM, ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา รวมถึงถุงลมนิรภัย 7 จุด
Lexus UX มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 13 สี ประกอบด้วย Mercury Gray Mica, Sonic Titanium, Graphite Black Glass Flake, Sonic Quartz, White Nova Glass Flake, Platinum Silver Metallic, Black, Madder Red, Amber Crystal Shine, Heat Blue Contrast Layering, Blazing Carnelian Contrast Layering, Terrane Khaki Mica Metallic, Celestial Blue สีภายในมีทั้งหมด 3 สี ประกอบด้วย Black, Flare Red และ Ocher
พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club” พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังได้การรับประกันคุณภาพรถยนต์และระบบไฮบริด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดของรถยนต์เลกซัสทุกรุ่น 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง พร้อมการบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ
สัมผัส All-New Lexus UX ได้แล้ววันนี้ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่งใน กทม. และดูตัวจริงก่อนใครได้ที่บูธเลกซัสในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lexus.co.th และ www.facebook.com/LexusThailand
Gallery
