BMW ประเทศไทย เผยโฉม BMW M5 เจนเนอเรชันที่ 6 ยกระดับสมรรถนะของรถยนต์ซีดานหรูไปอีกขั้นสำหรับแฟน ๆ ชาวไทย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจากเทคโนโลยี M xDrive เป็นครั้งแรก ก่อนเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
เป็นที่ทราบกันดีว่ารถสปอร์ตตระกูล M ของ BMW มีชื่อเสียงเรียงนามและประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่ละโมเดลถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยความพิเศษ พิถีพิถัน ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอมอเตอร์สปอร์ต ตลอดจนบรรจุเทคโนโลยีที่เป็นที่สุดของแต่ละยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของ M5 เริ่มต้นในปี 1984 จากรถสปอร์ตซีดานรหัสตัวถัง E28 รุ่นแรกเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.5 ลิตร 286 แรงม้า ประวัติศาสตร์ได้ก่อกำเนิดขึ้นและดำเนินผ่านทายาทรุ่นต่างๆ ทั้ง E34 E39 E60 และ F10 ประกอบกับขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีขนาดและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามแต่ละยุคสมัยตั้งแต่ 6 สูบเรียงเป็น V8 ไปจนถึง V10
All-New BMW M5 คือการสานต่อประวัติศาสตร์ดังกล่าว สปอร์ตซีดานคันนี้ผสานสุดยอดประสิทธิภาพแห่งการขับขี่และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้ทุกการเดินทางในชีวิตประจำวันมีความคล่องตัวและสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกัน โดย M5 เจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ถือเป็นหนึ่งในรถซีดานสมรรถนะสูงที่ประสบความสำเร็จมากทีสุด ด้วยนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ซึ่งไม่เพียงสร้างความเร้าใจในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามในแบบฉบับของ BMW
เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ M xDrive
นับเป็นครั้งแรกของรถสปอร์ตตระกูล M ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มอบสมรรถนะเร้าใจที่สุดด้วยการเน้นส่งกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลัง ควบคู่กับการเพิ่มกำลังส่งจากล้อหน้าในกรณีที่พละกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลังไม่เพียงพอและต้องการแรงฉุดลากที่มากขึ้น แม้ในสภาวะการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อน M xDrive ก็ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพลังของรถได้อย่างแม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้น
ผู้ขับขี่สามารถเลือกตั้งค่าลักษณะการขับได้อย่างหลากหลายตามความต้องการถึง 5 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (หรือ DSC ที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดระบบ DSC หรือเลือกการขับขี่ด้วยโหมด M Dynamic) และยังสามารถเลือกการขับขี่ด้วยระบบ M xDrive ซึ่งแบ่งเป็นโหมด 4WD, 4WD Sport และ 2WD ที่ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสความแรงเร้าใจด้วยความคล่องตัวสูงสุดบนท้องถนน รวมทั้งระบบเฟืองท้าย Active M ที่มอบเสถียรภาพการกระจายกำลังอย่างเต็มสมรรถนะ ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยช่วยลดความแตกต่างของความเร็วรอบระหว่างล้อหลัง
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ความสปอร์ตอันโดดเด่นของ M5 ใหม่คือปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสองปุ่มซึ่งอยู่ติดกับแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยมัลติ ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการตั้งค่าระบบต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้ถึง 2 แบบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าระบบ M xDrive ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC) ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบระบายอากาศ ระบบการควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งการตั้งค่ารูปแบบของการแสดงผลบน Head-Up Display
สุดยอดสมรรถนะและขุมพลัง
BMW M5 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที และ 0 – 200 กม./ชม. ภายใน 11.1 วินาที โลดแล่นด้วยความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. หากปลดล็อกสามารถไปได้มากกว่า 300 กม./ชม.
เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพื่อความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นในการเปลี่ยนเกียร์ อีกทั้งยังให้ตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติในเวลาอันสั้น อัตราสิ้นเปลืองตามสเปกอยู่ที่ 9.5 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 251 กรัม/กม. มีฟังก์ชัน Start/Stop ช่วยเพิ่มความประหยัด
สะกดทุกสายตาด้วยเอกลักษณ์ที่ดุดัน
BMW M5 ใหม่ เป็นการผสานกันอย่างลงตัวของความสง่างามตามแบบฉบับ 5 Series และลุคสปอร์ตปราดเปรียวของรถยนต์ในตระกูล M ช่องอากาศด้านหน้าได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเสริมประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนและระบบเบรก ระบบท่อไอเสีย 4 ท่อช่วยเสริมความดุดันด้านหลังและตอกย้ำถึงขุมพลังเครื่องยนต์ พร้อมกับให้สุ้มเสียงทรงพลังที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านกลไกวาล์วไอเสียรวม ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับเสียงให้นุ่มนวลหรือดุดันขึ้นได้ผ่านทางปุ่มควบคุมเสียง
M5 ใหม่ ยังมาพร้อมชุดเบรกในสไตล์ M เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยด้านหน้าเป็นเบรกคาลิเปอร์ M สีน้ำเงิน แบบ 6 ลูกสูบ และด้านหลังเป็นคาลิเปอร์แบบ 1 ลูกสูบลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเบรกเหล็กหล่อแบบเดิม และยังโดดเด่นด้วยการช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง ที่แม้จะมาพร้อมระบบ M xDrive แต่ M5 ใหม่ก็ยังคงมีน้ำหนักเบากว่า M5 เจนเนอเรชั่นก่อน ๆ ช่วยเพิ่มความคล่องตัว สมรรถนะ และประสิทธิภาพการเร่งได้เป็นอย่างดี ล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว ลาย Double-spoke รัดด้วยยางขนาด 275/35 ที่ล้อหน้า และ 285/35 ที่ล้อหลัง
ฝากระโปรงหน้าอะลูมิเนียมดีไซน์ M สร้างเอกลักษณ์ด้วยลายเส้นเฉพาะตัวที่ลากยาวไปตามแนวหลังคาผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ M5 ใหม่ ให้น้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษกว่ารุ่นก่อนหน้าแม้จะรวมกับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ระบบไอเสีย และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive แสดงให้เห็นถึงการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเซกเมนต์
มิติตัวรถยาว 4,966 มม. กว้าง 1,903 มม. สูง 1,473 มม. ห้องเก็บสัมภาระมีความจุ 530 ลิตร ภายนอกของ M5 ใหม่ยังมาพร้อมไฟหน้า Adaptive LED พ่วงระบบไฟสูงอัตโนมัติ ฟังก์ชันประตูดูด กล้องมองหลัง สปอยเลอร์หลัง และระบบ Park Distance Control
ภายในสไตล์ M
ห้องโดยสารของ M5 ใหม่ได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นสำคัญด้วยแผงหน้าปัดที่มีตำแหน่งต่ำลง Control Display แบบลอยตัว แดชบอร์ดที่เยื้องเข้าหาผู้ขับขี่ และ Head-Up Display ทีมีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 70% ตกแต่งด้วยหนัง Merino ทั้งห้องตัดกับลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุสีเงินอลูมิเนียม เสริมด้วยไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร
เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตเต็มอารมณ์ ปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่ง มีตัวปรับดันหลังให้ด้วยที่เบาะคนขับแล้วเบาะผู้โดยสารหน้า มาพร้อมระบบเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต 3 ก้าน หัวเกียร์ดีไซน์ M หน้าปัดดิจิตอลเต็มรูปแบบ และเข็มขัดนิระภัย M
โดดเด่นด้วยระบบสาระบันเทิง iDrive หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ควบคุมด้วยแป้นหมุนที่คอนโซลกลาง รองรับฟังก์ชันเชื่อมต่อครบครันทั้ง BMW ConnectedDrive ระบบนำทาง Professional รายงานสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการแสดงท่าทาง ตลอดจนเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยชุดเครื่องเสียงจาก Harman Kardon
BMW M5 ใหม่ จะเริ่มเปิดจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 ในราคาจำหน่าย 13,339,000 บาท พร้อมแพคเกจ BSI Standard ประกอบด้วยการบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง พิเศษสุดๆ กับ BMW M5 First Edition เป็นเวอร์ชันพิเศษที่ผลิต 300 คันทั่วโลก ในไทยได้มา 1 คัน ราคาค่าตัวที่ 14,939,000 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bmw.co.th หรือ www.facebook.com/bmwthailand/