2020 Land Rover Discovery Sport น้องเล็กประจำค่าย ปรับภายในใหม่ พร้อมอัพเกรดขุมพลังไฮบริด

        Land Rover แบรนด์รถเอสยูวีชื่อดังจากอังกฤษเผยโฉม Discovery Sport รุ่นปรับปรุงปี 2020 มาพร้อมไลน์อัพเครื่องยนต์ไฮบริด แพล็ตฟอร์มใหม่ และมีการปรับปรุงภายในครั้งใหญ่

        Discovery Sport เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ปัจจุบันเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดของ Land Rover โดยทำยอดขายได้เกือบ 1 ใน 3 จากยอดขายรวมทั่วโลก 100,000 คันของแบรนด์เมื่อปีที่แล้ว

        Discovery Sport ใหม่ เป็นเอสยูวีในพิกัดเดียวกับ BMW X3, Volvo XC60 และ Audi Q5 มีการเปลี่ยนแพลตฟอร์มจาก D8 มาเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่ Premium Transverse Architecture อันเดียวกับที่ใช้ใน Range Rover Evoque เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งแพล็ตฟอร์มใหม่นี้รองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รวมถึงระบบ Mild Hybrid 48V ที่จะถูกแนะนำเป็นครั้งแรกใน Discovery Sport

         ระบบ Mild Hybrid นี้เป็นการนำเอามอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กมาช่วยในการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ Discovery Sport ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นและปล่อยมลพิษน้อยลง ตัวเลขทางการอยู่ที่ 14.4 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 144 รัม/กม. ในส่วนของเวอร์ชั่นเสียบปลั๊กจะตามมาภายในในช่วงปลายปีนี้

         รุ่นเริ่มต้น D150 (เป็นรุ่นเดียวที่ไม่มีระบบ Mild Hybrid) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 148 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์แมนวล 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ทั้งนี้ ทุกเวอร์ชั่นที่เป็น All-Wheel Drive จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดของ ZF ซึ่งช่วยประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นได้ 2%

         รุ่นสมรรถนะสูงที่สุดจะเป็น P250 MHEV มาพร้อมขุมพลัง 246 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.1 วินาที เครื่องยนต์อื่นนอกจากนี้จะมี ดีเซล 178 และ 237 แรงม้า และเบนซิน 197 แรงม้า

          เช่นเดียวกับ Evoque, Discovery Sport ใหม่ที่ขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมระบบ Terrain Response เวอร์ชั่น 2 ประกอบด้วยโหมดขับขี่ออฟโรด 4 โหมดที่สามารถตรวจจับและปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนได้เองโดยอัตโนมัติตามสภาพพื้นผิว นอกจากนี้ยังมี Driveline Disconnect ที่จะส่งกำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าเพียงอย่างเดียวบนขับขี่บนทางเรียบปกติเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิง

         Discovery Sport ใหม่ทุกรุ่นย่อยใช้กันสะเทือนแบบคอยล์สปริงพร้อมกับระบบ Adaptive Dynamics ที่จะคอยตรวจจับและปรับการทำงานของโช๊คอัพให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวถนน ด้านมิติตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ยาว 4,597 มม. กว้าง 2,173 มม. สูง 1,727 มม. ระยะฐานล้อ 2,741 มม.

         Land Rover ยังคงออกแบบให้ Discovery Sport ใหม่เป็นออฟโรดที่สมบูรณ์แบบไม่ต่างจากพวกรุ่นพี่ทั้งหลาย นอกจากโหมดขับขี่ใหม่แล้ว วิศวกรยังออกแบบให้รถคันนี้ยังมีมุมไต่ 25 องศา มุมจาก 30 องศา มุมคร่อม 20 องศา และมันสามารถลากจูงได้มากกว่า 2,500 กก. เมื่อติดตั้งระบบ Advanced Tow Assist

         ดีไซน์ภายนอกของ Discovery Sport ใหม่รวมๆ แล้วยังคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับเปลี่ยนในหลายๆ จุดโดยอิงดีไซน์จาก Evoque เจนฯ 2 และ Velar กันชนหน้าเปลี่ยนใหม่ ปรับกระจังหน้าใหม่ ปรับรูปทรงชายล่างตัวถังใหม่ และปรับไฟหน้า LED ใหม่ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น

         ภายในมีการปรับปรุงขนานใหญ่ด้วยและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ระบบสาระบันเทิง Touch Pro ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน แสดงผลบนจอสัมผัส 10.25 นิ้ว และตอนนี้มันรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้แล้ว จอสัมผัสตัวล่างที่เป็นเครื่องปรับอากาศและระบบ Terrain Response เป็นออปชั่นเสริม

         จอหน้าปัดดิจิตอล 12.3 นิ้ว และ Head-up display มีเป็นมาตรฐาน มีพอร์ต USB 8 ช่อง มีแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายมีเป็นออปชั่นเสริม

           เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของ Discovery Sport ใหม่ ประกอบด้วย ระบบ ClearSight Ground View ที่ถูกแนะนำครั้งแรกใน Evoque ระบบนี้นำภาพจากกล้องที่กระจังหน้าและกระจกมองข้างมาประมวลผลแล้วแสดงเป็นภาพเสมือนรอบตัวรถโดยที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของรถมาบัง ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นมุมมองรอบตัวรถและใต้รถ ป้องกันอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเมื่อต้องเผชิญกับการจราจรอันหนานแน่นหรือถนนแคบๆ 

           นอกจากนี้ Discovery Sport ใหม่ยังมีกระจกมองหลังอัจฉริยะ มันเป็นทั้งกระจกสะท้อนธรรมดาและเป็นจอแสดงภาพจากกล้องด้านหลังรถไปในตัว Land Rover บอกว่าระบบนี้มีประโยชน์มากในที่ที่มีแสงน้อยหรือมีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคันรถจนมองผ่านกระจกปกติไม่ถนัด นอกจากนี้ Discovery Sport ใหม่ยังมีระบบช่วยจอดเป็นเซ็นเซอร์หน้า-หลังรถ กล้องมองหลัง เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลน ออปชั่นเสริมนอกเหนือจากนี้ยังมีอีกมาก

         

          นอกจากเทคโนโลยีที่ใส่มาล้นคันแล้ว ความอเนกประสงค์ก็คือหัวใจของ Discovery Sport ใหม่เช่นกัน รถคันนี้มีห้องเก็บสัมภาระความจุ 1,179 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,749 ลิตร เมื่อพับเบาะ ช่องเก็บของภายในรถมีเพิ่มขึ้น เบาะแถว 2 พับแยกแบบ 40/20/40 ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้การปรับเบาะมากกว่า 24 แบบ สามารถติดตั้งเบาะแถว 3 เพิ่มได้ พื้นที่ช่วงขาของเบาะแถว 2 มี 968 มม. เบาะแถว 3 มี 655 มม. ถังน้ำมันจุ 54-65 ลิตร 

          Land Rover Discovery Sport ใหม่มี 4 ระดับตกแต่ง ประกอบด้วย S, SE, HSE และ R-Dynamic รุ่นเริ่มต้น D150 ราคา 31,575 ปอนด์ (1.57 ล้านบาท)

Gallery

Exit mobile version