โฟล์กสวาเกน และ ฟอร์ด ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระดับโลก

DETROIT, MI., January 14, 2019--Jim Hackett, president and chief executive officer, Ford Motor Company, and Herbert Diess, chief executive officer, Volkswagen Group, tour the Ford display at the 2019 North American International Auto Show. The two companies will hold a joint conference call Tuesday, Jan. 15, 2019 at 8:30 a.m. EST to provide an update on their progress of alliance discussions. Photo by: Sam VarnHagen

  โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป และ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนีประกาศความร่วมมือในการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ในการพัฒนารถยนต์ร่วมกัน อันเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในยุคที่อุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ดร. เฮอร์เบิร์ท ไดส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โฟล์กสวาเกน และ มร. จิม แฮคเก็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ยืนยันว่า บริษัททั้งสองมีแผนพัฒนารถตู้เชิงพาณิชย์และรถกระบะขนาดกลางเพื่อจำหน่ายในตลาดทั่วโลกในปี 2022 ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและเสริมกำลังการผลิต ซึ่งเอื้อให้บริษัททั้งสองสามารถร่วมทุนกันในการพัฒนารถในรูปแบบต่างๆ ที่มีสมรรถนะและเทคโนโลยีที่โดดเด่น

บริษัททั้งสองประมาณการว่า รถตู้และรถกระบะเชิงพาณิชย์ที่พัฒนาร่วมกันจะสร้างผลกำไรได้ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป และ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อหาโอกาสและศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตรถไร้คนขับ การสัญจรอัจฉริยะ และรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัททั้งสองยังคงพิจารณาโครงการพัฒนารถยนต์ในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกัน ซึ่งทีมงานจะเริ่มศึกษาในรายละเอียดในระยะเวลาอันใกล้นี้

ความร่วมมือในรถตู้เชิงพาณิชย์และรถกระบะ

ฟอร์ดและโฟล์กสวาเกนมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจในรถตู้เชิงพาณิชย์ และรถกระบะในหลายตลาดทั่วโลก โดยมีรถรุ่นยอดนิยมอย่าง ฟอร์ด ทรานซิท และฟอร์ด เรนเจอร์ เช่นเดียวกับโฟล์กสวาเกนที่มี ทรานสปอร์เตอร์ แคคดี้ และแอมารอก  

ยอดขายสะสมของรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กของทั้งสองบริษัทในปี 2018 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงจำนวนการขายสูงสุดในอุตสาหกรรม เช่นเดียวกันกับปริมาณการผลิต

ความต้องการรถกระบะขนาดกลางและรถตู้เชิงพาณิชย์ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถแบ่งปันต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตของกันและกัน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ในขณะเดียวกันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ฟอร์ดและโฟล์กสวาเกนไว้

สำหรับความร่วมมือนี้ ฟอร์ดจะออกแบบและผลิตรถกระบะขนาดกลางให้กับทั้งสองบริษัท ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดได้โดยเร็วที่สุดในปี 2022 โดยฟอร์ดมีความตั้งใจที่จะพัฒนารถตู้เชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับลูกค้าในตลาดยุโรป ส่วนโฟล์กสวาเกนก็มุ่งมั่นในการพัฒนารถตู้ขนาดเล็กสำหรับขับขี่ในเมือง

2019 Ford Transit 250 HR LWB Cargo Van in Ingot Silver
Exit mobile version