โตโยต้า โคโรลล่า อัลติสเพิ่มสมาชิก 1.8 SPORT ใหม่

เก๋งนั่งยอดนิยมของคนไทย โคโรลล่า อัลติสMake it through เพิ่มรุ่นย่อย 1.8 SPORT ใหม่ พร้อมปรับแต่งเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ในรุ่น 1.8 GR-SPORT และรุ่น Hybrid Premium 

      โคโรลล่า อัลติส หนึ่งในตำนานรถยนต์ที่อยู่คู่กับคำว่าคุณภาพมานานมากกว่า 50 ปี ตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกจนถึงเจนล่าสุดด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ผสานกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ (Toyota New Global Architecture หรือ TNGA) และทำให้เกิดตำนานบทใหม่โดยนำรถยนต์โคโรลล่า อัลติส รุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นรถ Production Car สายการผลิตในประเทศไทย ปรับแต่งอุปกรณ์บางส่วนให้ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยของการแข่งขัน จนสามารถพิชิตสนามนูร์เบอร์กริงคว้าอันดับหนึ่งในรายการ ADAC Total 24h-Race Nürburgring รุ่น Super Production 3 ปี 2020 แสดงให้เห็นถึงการรักษาไว้ซึ่งพื้นฐานอันสำคัญทางด้านคุณภาพ (Quality) ความทนทาน (Durability) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) ที่ไม่มีใครเทียบ  

Toyota Corolla Altis 1.8 Sport

     โตโยต้า ทำการเสริมทัพรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า โดยการฝังเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift อัตราเร่งล้นมือ 

      ปรับความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแกร่งและเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot welding) รองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน อีกทั้งยังออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถเพื่อความสนุกต่อการขับขี่ (Fun-to-drive) 

ความปอลดภัย

ไม่เพียงแค่เรื่องของเครื่องยนต์ระบบช่วงล่างโครงสร้างต่าง ๆ เท่านั้น โตโยต้า ยังอัดเทคโนโลยีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่าง

รูปโฉมที่เปลี่ยนไป

       ด้านหน้าของตัวถังชุดไฟหน้า Bi-Beam LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights กระจังหน้าโฉบเฉี่ยวมากขึ้น สปอร์ต เท่โดนใจ ด้านหลังตัวรถติดตั้งไฟท้าย LED Rear Lamps พร้อมช่วงล่างแบบสปอร์ตและล้ออัลลอย 17 นิ้ว 

ภายใน

     หลังพวงมาลัยมาพร้อมมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ให้ความบันเทิงด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay หมดกังวลเรื่องการชาร์จแบตเพราะโตโยต้า ติดตั้งแท่นชาร์จไฟแบบไร้สายรองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi รวมถึงมีระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) และ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ไม่พลาดกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning System) และช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง (Rear Air Conditioning)

รุ่น 1.8 GR SPORT

       เพิ่มหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (Head Up Display) มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว พร้อมแท่นชาร์จไฟแบบไร้สายและระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น Hybrid Premium

      ปรับโฉมด้านล่างของตัวรถให้โฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยล้ออัลลอย 17 นิ้ว ใส่ความปลอดภัยระบบปรับระดับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Outer mirror reverse function) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control รวมถึงระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)และ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)

มีทางเลือกให้ผู้บริโภคกับตัวถังถึง 7 สี Attitude Black Mica, Celestite Gray, Phantom Brown, Red  Mica Metallic, Silver Metallic, Super White II*, Platinum White Pearl**

* สำหรับสีพิเศษ Super White II มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6L และ รุ่น Limo

** สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8L และ Hybrid Model 

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด

– Hybrid Premium Safety (เดิม Hybrid High) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท****

– Hybrid Premium (เดิม Hybrid Mid) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 994,000 บาท****

– Hybrid Smart (เดิม Hybrid Entry) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท****

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน

– 1.8 GR- SPORT*** เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,009,000 บาท****

***มี 3 สี Platinum White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica

– ใหม่ 1.8 SPORT เกียร์อัตโนมัติ ราคา 964,000 บาท****

– 1.6G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 879,000 บาท****

– Limo เกียร์อัตโนมัติ ราคา 839,000 บาท****

****ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

 

Exit mobile version