เฟอร์รารี่ เผยโฉมยนตรกรรม GT ล่าสุด “Portofino M”

     ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เฟอร์รารี่ได้เปิดตัว Portofino M แต่กลับต้องถูกระงับการดำเนินการไว้ชั่วคราวด้วยวิกฤตดังกล่าว ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการออกเดินทางเพื่อค้นพบอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการกลับมาของค่ายม้าลำพอง รถได้ถูกเผยโฉมแล้ว และการเปิดตัวนี้จะดำเนินการผ่านสื่อออนไลน์ทั้งหมด นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์กว่า 70 ปี ของแบรนด์จากมาราเนลโล อิตาลี

     ที่มาของการตั้งชื่อ Portofino M โดยในชื่อจะมีอักษร “M”  ที่ย่อมาจาก “Modificata” หมายถึง รถยนต์ที่ผ่านการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะขึ้นไปจากเดิม การกลับมาครั้งนี้ได้อัพเกรดศักยภาพของเครื่องยนต์อย่างเต็มเหนี่ยว ด้วยนวัตกรรมทางเทคนิค

      ระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ด้วยเกียร์แบบ 8 จังหวะรุ่นล่าสุด และ Manettino 5 โหมด รวมถึงโหมด Race ที่นับเป็นครั้งแรกกับการนำมาใช้ในรถ GT แบบเปิดประทุน มั่นใจได้เลยว่า Portofino M มีความครบครันตามแบบฉบับของรถ GT ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ, ความเร้าใจในการขับขี่, ความคล่องตัว และสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน

     พลังขับเคลื่อนของรถด้วยเครื่องยนต์ ความจุ 3,855 ซีซี ขุมพลัง V8 เทอร์โบ ในครั้งนี้ถูกอัพเกรดความแรงให้ส่งพละกำลังได้ถึง 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที มากกว่าเฟอร์รารี่ Portofino ถึง 20 แรงม้า ด้วยเกียร์แบบ 8 จังหวะ ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับรถเฟอร์รารี่เปิดประทุน ใช้คลัตช์คู่แบบแช่ในน้ำมัน พร้อมด้วยชุดคลัตช์ที่มีขนาดเล็กลง 20% และถ่ายทอดแรงบิดได้สูงขึ้น 30%

      นวัตกรรมที่สำคัญที่สุดในด้านไดนามิกส์ คือ ระบบ Manettino แบบ 5 โหมด และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ถูกนำมาติดตั้งกับรถเปิดประทุน GT เพื่อเพิ่มแฮนด์ลิ่ง การยึดเกาะถนน ผ่านโหมด Race ที่เพิ่มเข้าไป เพิ่มอรรถรสในการขับขี่ที่สนุกมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบ Ferrari Dynamics Enhancer ทำงานสนับสนุนควบคู่กันไป

      ด้านหน้าและกันชนได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความสปอร์ต ดุดันมากขึ้น จะสัมผัสได้ว่าทั้งภายในและภายนอกนั้นมีความเข้ากันอย่างลงตัว 

      ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่อย่างเช่น ADAS และเบาะนั่งแบบระบายอากาศ ทำความร้อน แต่ยังคงความเป็นมาตรฐานของรุ่นก่อนหน้าไว้เหมือนเดิม ที่สำคัญคือ หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (RHT – Retractable Hard Top) ฟีเจอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของรถเปิดประทุนจากม้าลำพอง

    ด้วยความกะทัดรัดของ Portofino M ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส เช่นนั้นจึงทำให้รถมีความคล่องตัวบนท้องถนน รวมถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

Exit mobile version