เผยโฉม All-New Porsche Cayenne เจ้าชายกบยกสูงรุ่นที่ 3 เบากว่า แรงกว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ เพียบ

All-New Porsche Cayenne 2018 เผยโฉมอย่างเป็นทางการ คู่แข่งได้แก่ Audi Q7, BMW X5, Jaguar F-Pace, Mercedes-Benz GLE และ Range Rover Sport

         Cayenne เจนเนอเรชันที่ 3 ได้รับการปรับปรุงใหม่และออกแบบใหม่ แม้ด้านนอกจะดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ใช้โครงสร้างตัวถังอลูมิเนียม ระบบไฟฟ้า 48V และออกแบบภายในใหม่ด้วยการเพิ่มออปชันการเชื่อมต่อ

         Cayenne ใหม่ใช้โครงสร้างพื้นฐาน MLB platform รุ่นล่าสุด ซึ่ง Porsche บอกว่าช่วยลดน้ำหนักลงจากรุ่นก่อน 65 กิโลกรัม โดยน้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 1,985 กิโลกรัม มิติโดยรวมของตัวใหญ่รถกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย ยาว 4,918 มม. กว้าง 1,983 มม. สูง 1,694 มม. ระยะฐานล้อ 2,895 มม.

         ไฟหน้า LED มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบ Porsche Dynamic Light System Plus เป็นหลอด LED 84 ดวงที่แยกการทำงานแยกกันอย่างอิสระ สามารถปรับตามองศาการหมุนของพวงมาลัยและปรับไฟสูงอัตโนมัติโดยไม่แยงตารถคันอื่น

         ทุกคันมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วหรือใหญ่กว่า พร้อมด้วยยางหลังหน้ากว้างเหมือนกับ Porsche 911 ซึ่งช่วยในเรื่องของการทรงตัวขณะเข้าโค้ง

         แม้ดีไซน์ภายนอกจะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก แต่ภายในของ Cayenne ใหม่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ส่วน แดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ที่มีจุดเด่นที่การผสานความเป็นอนาล็อกและดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตลอดจนคอนโซลกลางที่มาพร้อมแป้นควบคุมแบบสัมผัส

         ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วเหมือนใน Panamera มีความคมชัดสูง ลื่นไหล และใช้งานง่าย แสดงข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนทั้งการนำทาง รายงานสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ และ Porsche Connect Plus ซึ่งเป็นบริการออนไลน์และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังแสดงผลจากกล้องจับความร้อนของระบบ Night Vision Assist อีกด้วย

         พื้นที่ห้องโดยสารดูไม่ต่างไปจากเดิมมากนักเพราะฐานล้อเท่าเดิม แต่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายเพิ่มความจุจากรุ่นก่อนอีก 100 ลิตร เป็น 770 ลิตร เท่ากับ Audi Q7

         Cayenne ใหม่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ บล็อกเดียวกับ Panamera ให้กำลัง 335 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร สามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.2 วินาที (Sport Chrono Package ทำได้ 5.9 วินาที) เร็วกว่าตัวเก่า 1.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 245 กิโลเมตร/ชั่วโมง มากกว่าตัวเก่า 14.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง

         ส่วน Cayenne S จะมีพละกำลังมากกว่า เครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบ 434 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.2 วินาที (Sport Chrono Package ทำได้ 4.9 วินาที) เร็วกว่าตัวเก่า 0.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 265 กิโลเมตร/ชั่วโมง มากกว่าตัวเก่า 6.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง

         ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด TipTronic รุ่นใหม่ที่ปรับอัตราทดให้เร็วขึ้นและมีอัตราทดแบบสปอร์ตในเกียร์ต่ำ ขณะเดียวกันเกียร์สูงก็ปรับทดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

       

         Cayenne ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีโหมดออฟโร๊ด 4 โหมดให้เลือกใช้ตามสภาพการขับขี่ได้แก่ mud, gravel, sand และ rocks ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ มาพร้อมระบบ Porsche 4D Chassis Control system ในรุ่น Cayenne S มาพร้อมระบบ Porsche Active Suspension Management พร้อมโช๊คอัพแปรผัน

         ออปชัน Sport Chrono Package มี 4 โหมดการขับขี่คือ Normal, Sport, Sport Plus และ Individual พร้อมฟังก์ชัน Sport Response ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ออปชันเสริมอื่นๆ ได้แก่ ระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลัง ช่วยในการจอดเข้าซองและเลี้ยวแคบๆ  จานเบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบน์เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานและความหนึบ

         

         Porsche ยังไม่ยืนยันว่ารุ่นดีเซลจะมีหรือไม่ แต่ในปัจจุบันรุ่นดีเซลที่มีอยู่ทำยอดขายในอังกฤษและตลาดอื่นๆ ได้น่าพอใจ คาดว่าตัวแทนของ Cayenne Diesel และ Diesel S น่าจะมีออกมา ซึ่งอาจจะใช้เครื่อง V8 4.0 ลิตร 416 แรงม้า ของ Panamera

         Cayenne เจนเนอเรชันที่ 3 จะเปิดตัวสู่สาธารณะที่งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ เดือนกันยายน ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 55,965 ปอนด์ (2,798,250 บาท) ส่วน Cayenne S เริ่มที่ 68,330 ปอนด์ (3,146,500 บาท) เปิดให้จองแล้วในอังกฤษ เริ่มส่งมอบเมษายนปีหน้า

[iframe width=”560″ height=”315″ src=”https://www.youtube.com/embed/XpZaEcPOLKM” frameborder=”0″ allowfullscreen ]
Exit mobile version