บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดฯ เปิดตัว R 18 First Edition

มีการประกาศเปิดตัวพร้อมเผยโฉม R 18 First Edition ครูสเซอร์พันธุ์แท้ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู

    นำโดย มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการไบเกอร์สายคลาสสิกอีกครั้งด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition มอเตอร์ไซค์ทัวริ่งครูสเซอร์ที่จะมาสร้างตำนานใหม่ ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ทรงพลัง ดีไซน์ที่หลอมรวมกลิ่นอายแบบย้อนยุคและร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน

สมรรถนะ

     เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ มาพร้อมความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที และส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในระหว่าง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที และระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิม ส่งเสียงกระหึ่มเร้าใจ โดดเด่นด้วยความประณีตทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังได้รับแรงบันดาลใจจากบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียว

ระบบช่วงล่าง

     คงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมนุ่มสบาย แกนโช้คหน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 49 มิลลิเมตร ระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 90 มิลลิเมตร ระบบเบรกของบีเอ็มดับเบิลยู 18 First Edition มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิปเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น

การขับขี่

     มาพร้อม 3 โหมด ได้แก่ “Rain”, “Roll” และ “Rock” ให้เลือกปรับตามความชอบเฉพาะตัว เทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ดีไซน์

 

     คงความคลาสสิกด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถัง ส่วนโครงสร้างเฟรมและถังน้ำมันสร้างเส้นสายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงซุ้มล้อหลัง สร้างความสง่างามด้านดีไซน์จากมุมข้าง ทุกอย่างล้วนผลิตด้วยวัสดุโลหะ

    มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม พร้อมจอแสดงสถานะการขับขี่ที่ปรากฎให้เห็นเฉพาะเวลาเปิดไฟ จอแสดงสถานะเกียร์และข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบ Daytime Riding light และ Headlight Pro ในโคมโลหะคุณภาพสูง และไฟเลี้ยว LED ที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวกับไฟท้าย สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

     แสดงความเท่ด้วยสีดำ Black Storm Metallic ตัดกับลายเส้นสีขาวบนตัวถัง ชิ้นส่วนโครเมียม ลูกเล่นป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม “First Edition” ข้างตัวถัง

Exit mobile version