กระบะนาวารา ใหม่ ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยมาพร้อมกับ 3 เครื่องยนต์และดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งานของลูกค้า ภายนอกดุดัน ภายในสุดสบายและเทคโนโลยีทันสมัย
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย นำนิสสัน นาวารา ใหม่ บุกตลาดประเทศไทยและเป็นส่วนหนึ่งภายใต้แนวคิดอย่าง Nissan NEXT ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสองฐานการผลิตนิสสัน นาวารา ใหม่ เพื่อลูกค้าชาวไทยและส่งออกไปกว่า 26 ประเทศ
สมรรถนะใหม่ แรงและประหยัด
เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ทวินเทอร์โบ YS23DDTT เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ YS23DDT เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า Ps และแรงบิด 403 นิวตันเมตร สำหรับตัวถังแบบ King Cab รุ่น Calibre และ Double Cab
เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร YD25DDTTi เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า Ps และแรงบิด 403 นิวตันเมตร
โดยทั้งหมดนี้สามารถรองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น B7, B10 และ B20
โฉมใหม่ เข้ม คม แกร่ง
ด้วยภายใต้แนวคิด “Unbreakable Design” จึงได้รับการออกแบบซุ้มล้อให้มีขนาดใหญ่เข้ากับรูปลักษณ์แบบรถยนต์ออฟโรด กระจังหน้าแบบ Interlock ขนาดใหญ่เสริมความดุดัน
ไฟหน้าQuad-eye LED 4 ดวงคุณภาพสูง พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light และไฟท้าย LED light guide แบบเส้นเดียว สะท้อน Design DNA นิสสันสำหรับคนยุคใหม่
ระบบการขับขี่ มั่นใจทุกเส้นทาง
เทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อ 4×4 (4WD) ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นระบบสองล้อหรือสี่ล้อ ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อม ฟังก์ชัน shift-on-the-fly เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive หรือ 4LO สำหรับการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร อาทิ ทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูงชัน หรือลงในเส้นทางลาดชัน
ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) ระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H ขณะที่ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differential ช่วยเสริมกำลังฉุดเมื่อขับขี่ในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L
โมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียว (Fully Boxed Frame) พร้อมระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโครง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อนพร้อมโช๊คอัพ โดยทั้งหมดถูกปรับจูนใหม่ เพื่อสมรรถนะและการทรงตัวรถขณะขับเข้าโค้งที่ดีเยี่ยม
เทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้
- เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
- เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
- เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI)
- เทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention – ILI)
- เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เพิ่มระบบ Off-Road Meter เพื่อมุมมองขณะขับขี่ไปข้างหน้าในโหมด 4L
- เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC)
Safety Shield Technology เทคโนโลยีความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง Trailer Sway Assist (TSA)
- ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
- ถุงลมนิรภัย SRS 7 จุด คู่หน้า / ข้าง และม่านข้างซ้ายขวา และบริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ โดยถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
Seamless Connectivity การเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
NissanConnect สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่น เช่น ระบบนำทาง (Navigation system) หรือแอปพลิเคชันฟังเพลงต่าง ๆ ผ่านจอเครื่องเสียงรถยนต์หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ ผ่านบริการแบบ Connected Car Services โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ TCU (Telematics Control Unit) ที่ติดตั้งภายในรถยนต์และแอปพลิเคชัน NissanConnect Services บนสมาร์ทโฟน โดยมีฟังก์ชั่นที่สำคัญ เช่น การแสดงพิกัดรถยนต์ สถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน ประวัติการขับขี่ เป็นต้น
ยกระดับความแกร่งขึ้นอีกขั้นสู่กระบะแอดเวนเจอร์ ทั้ง ‘PRO4X’ และ ‘PRO2X’
นิสสัน นาวารา PRO Series ใหม่
พิเศษด้วยตัวถังสีเทา สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) ที่เป็นสีเฉพาะรุ่นมาพร้อมกระจังหน้าสีดำดุดัน ไม่แพ้ใคร เสริมความเท่ด้วยมือจับประตู กระจกมองข้าง แร็คหลังคา และ โป่งล้อโทนสีดำ โดดเด่นด้วยแอคเซนท์สีส้ม-แดง ตัดกับกระจังหน้าและล้อสีดำเข้ม
โลโก้นิสสัน สีส้ม-แดง กับพื้นหลังสีดำ PRO series ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง All Terrain ของ YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012
ภายใน
เบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต เดินตะเข็บบนเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์ พร้อมโลโก้ PRO4X พวงมาลัยสปอร์ต คอนโซลลายเปียโนแบล็ค หัวเกียร์ และแผงประตูหุ้มด้วยหนังแท้ และไม่ทิ้งคอนเซปต์แอคเซนท์สีส้ม-แดง ภายในห้องโดยสาร
ลดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วย Noise-reducing acoustic glass กระจกตอนหลัง กรองแสงสีชาและหนังแท้รอบห้องโดยสารโทนสีดำ
มาตรวัดหน้าจอสีแสดงผลแบบ TFT สามมิติ ขนาด 7 นิ้วโดยสามารถแสดงข้อมูลได้อย่าง ระบบเตือนนำทางแบบ Turn-by-Turn Direction, ระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าจากการขับขี่ (Intelligent Driver Alertness) รวมถึงพอร์ต USB Type C บริเวณคอนโซลกลาง
มีให้เลือกในตัวถังแบบ King cab 2 ประตู แบบธรรมดา และ ตัวถังยกสูง (Calibre) รวมถึง Double Cab 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มีทั้ง ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มีให้ถึง 7 สี
- สีขาว ไวท์ โซลิด (White Solid)
- สีขาว ไวท์ เพิร์ล (White Pearl)
- สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver)
- สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star)
- สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด (Burning Red)
- สีพิเศษ ฟอร์จ คอปเปอร์ (Forged Copper)
- ขณะที่รุ่น PRO series (PRO4X และ PRO2X) มีสีพิเศษ เทา สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เพิ่มเป็นทางเลือก
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมชุดแต่งภายนอกและภายใน อาทิ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว, กันชนหน้าแบบออฟโรด, กระจังหน้าแบบตัววี สีดำเงา รวมถึงฝาครอบกระบะท้ายลายคาร์บอน ฯลฯ
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดข้อมูลได้ที่ NISSAN