ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ใหม่เป็นจำนวน 68,426 คัน ให้กับลูกค้าทั่วทุกมุมโลก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าคือปี 2021 นั้น ยอดส่งมอบรถยนต์ลดลง โดยคิดเป็นอัตราส่วนถึง 5 เปอร์เซ็นต์ โดย Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลส่วนงานขาย และการตลาด ของ Porsche AG กล่าวว่า “จากท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่ไม่ปกติ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ รวมไปถึงปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบ ตลอดจนปัญหาด้านการขนส่ง แต่ทีมงานด้านการขาย และตัวแทนจำหน่ายของเรายังคงทำผลงานได้ดีในไตรมาสแรก ซึ่งมีผลมาจากการฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์โคโรน่าไวรัสในบางภูมิภาค อาทิ ประเทศจีน แต่ทั้งหมดนี้กลายเป็นบททดสอบที่เราต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเรายังคงมีความต้องการอย่างสูงจากลูกค้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทวีปยุโรป , อเมริกา หรือประเทศจีน”
การเติบโตในทวีปยุโรป ถือเป็นความท้าทายในหลากหลายแง่มุม ที่บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมันจะต้องรับมือ แต่ยังคงแสดงผลการดำเนินงานได้ดี โดยแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นผ่านทางยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละภูมิภาคของโลก ซึ่งในทวีปยุโรป ปอรเช่มียอดส่งมอบรถยนต์สูงถึง 22,791 คัน ในช่วงไตรมาสแรก คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 18 เปอร์เซ็นต์
เมื่อพิจารณาถึงภาพรวม รถยนต์ปอร์เช่ ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าในภูมิภาค เอเชีย แปซิฟิก, แอฟริกา และตะวันออกกลาง จำนวน 28,991 คัน ทั้งนี้เมื่อมองเฉพาะภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Porsche Asia Pacific¹ ถือว่ายังคงรักษาระดับผลการดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสแรกของปี 2022 มีอัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างสวยงามเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้าได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์
เป็นอีกครั้งที่ความต้องการสูงสุดของปอร์เช่ ยังคงเป็นรถสปอร์ต SUV ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) ซึ่งมีตัวเลขยอดส่งมอบจำนวน 19,029 คัน ตามด้วย มาคันน์ (Macan) มีตัวเลขรวมจำนวน 18,329 คัน ถัดมาที่ทางด้านรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ทำได้ที่ 9,470 คัน ในส่วนรถสปอร์ตระดับตำนานปอร์เช่ 911 มียอดจำหน่ายทั่วโลกที่ 9,327 คัน ตามด้วยพานาเมร่า (Panamera) ที่มียอดส่งมอบรวม 7,735 คัน และปอร์เช่ 718 บ๊อกสเตอร์ (718 Boxster) รวมทั้ง 718 เคย์แมน (718 Cayman) มียอดส่งมอบรวมที่ 4,536 คัน